ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย Line Official Account “หมอพร้อม” เวอร์ชั่น 2
ปรับรูปแบบการลงทะเบียน เพิ่มการประเมินสุขภาพตนเองก่อนฉีดวัคซีน ช่วยแพทย์ประเมินอาการและฉีดวัคซีนได้อย่างปลอดภัย เริ่มเปิดรับลงทะเบียนฉีดวัคซีน วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เวลา 9.00 น. สำหรับ ประชาชน 7 กลุ่มโรคเสี่ยงและผู้สูงอายุ
วันนี้ (30 เมษายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวประเด็น Line Official Account “หมอพร้อม” ว่า แพลตฟอร์มหมอพร้อมเป็นเครื่องมือในการลงทะเบียนจองและนัดฉีดวัคซีน ที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้เข้าถึงบริการ ผ่านระบบแอปพลิเคชันไลน์ ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งในเวอร์ชั่นแรกจัดทำขึ้นเพื่อให้บุคลากรทางสาธารณสุข /บุคลากรด่านหน้า / อสม. ได้ใช้เพื่อติดตามอาการหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 และนัดหมายในการฉีดเข็มที่ 2 ส่วน “หมอพร้อม” เวอร์ชั่น 2 ที่ได้พัฒนาเพื่อใช้งานสำหรับการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชน 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน โรคอ้วน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 16 ล้านคน โดยมีการปรับปรุงรูปแบบการลงทะเบียนให้ประชาชนประเมินสุขภาพตนเอง ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถประเมินอาการและฉีดวัคซีนได้อย่างปลอดภัย ส่งผลให้กระบวนการรับบริการมีความรวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถลงทะเบียน ให้กับสมาชิกในครอบครัวได้ด้วย โดย Line Official Account “หมอพร้อม” เวอร์ชั่น 2 จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 น. ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และจะเริ่มทำการฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิถุนายน เป็นต้นไป กรณีประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมได้ ให้แจ้งความประสงค์ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน/ โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา หรือแจ้งที่อาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงระบบบริการอย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ ได้รับการฉีดวัคซีนก่อน เนื่องจากเมื่อหากติดเชื้อจะมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าคนทั่วไป ส่วนประชาชนกลุ่มอื่นขอให้คิดว่าเป็นหนึ่งในการช่วยเหลือประเทศด้วยการรักษาชีวิตผู้ที่มีความเปราะบาง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะทยอยฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มอื่นเป็นลำดับถัดไป สำหรับกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ หากมีความจำเป็นที่จะต้องรับการฉีดวัคซีนเร่งด่วน กระทรวงสาธารณสุขมีคณะทำงานในการพิจารณาความเหมาะสม เพื่อให้การควบคุมโรคในประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว
“บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน มีความพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมโรคโควิด เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากประชาชนไม่ว่าจะได้รับฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ การออกจากบ้านทุกครั้งขอให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รวมถึงรักษาระยะห่าง เพื่อที่จะช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว” นายธนิตพลกล่าว