กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะในช่วงปิดเทอมนี้ เด็กๆ จะอยู่บ้านกับครอบครัว ขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ระวังป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก หากมีอาการไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า หรือตุ่มแผลในปาก ควรพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป
วันนี้ (18 พฤษภาคม 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว หลายพื้นที่ของประเทศมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อากาศเย็นลงและมีความชื้น ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ที่มักพบบ่อยในช่วงนี้ ประกอบกับเป็นช่วงปิดเทอมของสถานศึกษาเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 เด็กๆ จะอยู่บ้านกับครอบครัว พ่อแม่ ผู้ปกครองจึงต้องดูแลบุตรหลานและสังเกตอาการป่วยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก เพราะอาจป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก เนื่องจากเป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
สถานการณ์ของโรคมือ เท้า ปาก ในปี 2564 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 พฤษภาคม 2564 มีรายงานผู้ป่วย 14,559 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คือ แรกเกิด – 4 ปี (ร้อยละ 86) รองลงมาคืออายุ 5 ปี และอายุ 6 ปี ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เชียงราย พะเยา น่าน สุราษฎร์ธานี และแพร่ ตามลำดับ
สำหรับอาการของโรคมือ เท้า ปาก จะเริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปาก เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
นายแพทย์โอภาส กล่าวแนะนำว่า พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องดูแลและสังเกตอาการของบุตรหลานในช่วงที่อยู่บ้านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเด็กเล็กอาจบอกอาการเจ็บป่วยของตนเองไม่ได้ โดยวิธีป้องกันโรคมือ เท้า ปาก มีดังนี้
- ลดการสัมผัสเชื้อ ไม่นำมือที่สกปรกสัมผัสใบหน้า เพราะเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย ซึ่งมักจะติดอยู่บนมือแล้วนำเข้าปากหรือจับของเล่น ของใช้ ทำให้เชื้อกระจายสู่ผู้อื่นได้
- หมั่นทำความสะอาดของใช้และของเล่นของเด็กเป็นประจำ และเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
- หมั่นให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อลดเชื้อสะสมบนมือและลดการแพร่สู่ผู้อื่น
- หากบุตรหลานป่วย ให้เด็กสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ไม่พาเด็กป่วยไปในสถานที่แออัด แยกของใช้ส่วนตัวและไม่ให้คลุกคลีกับคนอื่นๆ
ทั้งนี้ หากบุตรหลานมีอาการป่วยตามลักษณะข้างต้น ควรพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป และวิธีป้องกันโรคดังกล่าวสามารถป้องกันได้ทั้งโรคมือ เท้า ปาก โรคโควิด-19 และโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ที่มา : กองโรคติดต่อทั่วไป/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค