วันนี้ (18 พ.ค. 64) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งต่อลิงก์พร้อมข้อความ อ้างว่าเป็นโครงการของร้านกาแฟชื่อดัง เชิญชวนให้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามเพื่อลุ้นรับเงินทุนช่วยเหลือโควิด-19 จำนวน 10,000 บาท ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยที่ผ่านมามักมีการแอบอ้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง ตลอดจนบริการของภาครัฐ ทำลิงก์ชักชวนให้ตอบแบบสอบถาม กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อลุ้นรับเงิน สินค้า หรือประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
โดยพฤติการณ์ของเว็บไซต์ดังกล่าวจะบังคับให้เราส่งต่อลิงก์พร้อมข้อความ ให้กับเพื่อนๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์รูปแบบต่างๆ จากนั้นเมื่อส่งต่อถึงจำนวนที่กำหนด จึงจะอนุญาตให้ทำการลงทะเบียนตอบแบบสอบถาม โดยให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ รายได้ อาชีพ ข้อมูลบัตรเครดิต หมายเลขยืนยันตัวตนหลังบัตรเครดิต (CVV) ฯลฯ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ เสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น
- เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้เข้าถึงข้อมูลบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ในกรณีที่มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตั้งเป็นรหัสผ่านบัญชี
- เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน
- เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประกอบในการฉ้อโกงผู้อื่น
อีกทั้งในบางกรณีหลังจากลงทะเบียนตอบแบบสอบถามเสร็จสิ้น เว็บไซต์ดังกล่าวจะนำทางเราไปยังเว็บไซต์การลงทุนออนไลน์ เว็บไซต์การพนัน หรือเว็บไซต์กู้เงินผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงได้
การกระทำของผู้สร้างเว็บไซต์ดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ฐานโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ผู้ที่แชร์ข้อความดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(5) ฐาน เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เช่นเดียวกัน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์หากมีกรณีได้รับลิงก์พร้อมข้อความในลักษณะดังกล่าว ให้ตรวจสอบความถูกต้อง ว่ามีเกี่ยวข้องกับบริษัทตามที่ถูกกล่าวอ้างจริงหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบจากเว็บไซต์ของบริษัท หรือโทรสอบถามไปยังศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทดังกล่าว และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน งดส่งต่อข้อความเชิญชวนลักษณะดังกล่าว โดยไม่ตรวจสอบที่มาของเว็บไซต์หรือความถูกต้องของข้อมูล เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข้อมูลที่ บิดเบือนหรือปลอม อันอาจทำให้เกิดความเสียหายกับตนเองและผู้อื่น และอาจเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้