หลังที่ประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 12/2564 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 มีมติเห็นชอบให้เรียก คำว่า “โรคโควิด” เป็นภาษาบาลีว่า “โควิโท” แทนชื่อ “โรคโควิด” พร้อมทั้งบัญญัติคำดังกล่าว ลงในบทสวดมนต์ไล่โควิด-19 หรือ “บทสวดรัตนสูตร” มีค่า นิวส์ จึงสรุปบทสวดดังกล่าว มาให้ทุกคนได้รู้จักกัน
“บทสวดรัตนสูตร” และคำแปล มีดังนี้
(ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนเริ่มบทสวด)
บทสวด : ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข / สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ / อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง / ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ / เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ / ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง / ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ / (**ซ้ำ) ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา / สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง / นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ / อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง / เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ / ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง, ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต / นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ / อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ / ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง / สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ / สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ / อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง / เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ / เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา / จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ / เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา / เอเตสุ ทันนานิ มะหัปผะลานิ / อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง / เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
คำแปล : เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี / ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด / และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย อันข้าพเจ้ากล่าว โดยเคารพเถิด / ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายทั้งปวงจงฟังข้าพเจ้า / ขอท่านทั้งหลาย จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด / ซึ่งเขาทั้งหลาย ทำเทวตาพลีอยู่ ทั้งกลางวันกลางคืน / เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่ประมาท ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด / (**ซ้ำ) ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น / หรือรัตนะอันใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์ / ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า ไม่มีเลย / ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า / ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด / พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง / สิ่งใดๆที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี / ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม / ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด / พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดทรงสรรเสริญสมาธิว่าเป็นธรรมอันสะอาด / บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวว่าสมาธิเป็นคุณธรรมอันให้ผลโดยลำดับสม่ำเสมอ / คุณธรรมอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี / ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม / ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด / บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น 8 / นับเป็นคู่ได้ 4 คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว / บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน / ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลเป็นอันมาก / ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์ / ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด
ทั้งนี้ “บทสวดรัตนสูตร” มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เป็นบทสวดที่พระอานนท์ พระอรหันต์สาวก ร่ำเรียนมาจากพระพุทธเจ้า เพื่อใช้ในการสวดขจัดปัดเป่าภัยพิบัติร้ายแรง ที่เกิดขึ้นกับกรุงเวสาลี มีทั้งโรคระบาด, อันตรายจากภูติผีปีศาจ ซึ่งภายหลังใช้บทสวดนี้ ภัยพิบัติดังกล่าวได้ยุติลงอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้เชื่อว่าเกิดจากอานุภาพบทสวดนี้
ขั้นตอนการนำ “บทสวดรัตนสูตร” มาสวดไล่โควิด-19
เรื่องนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศ สวดมนต์บทรัตนสูตรในช่วงทำวัตรเย็น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา เพราะเชื่อว่า จะช่วยขจัดปัดเป่าโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดให้หมดไป
สำหรับ “บทสวดรัตนสูตร” บทนี้ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าสามารถช่วยไล่โควิด-19 ได้จริง ดังนั้น มีค่า นิวส์ จึงอยากให้ทุกคนดูแลป้องกันตัวเอง ตามมาตรการรัฐควบคู่ไปด้วย เช่น การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง รวมถึงพกเจล หรือ สเปรย์แอลกอฮอลล์ติดตัว ก่อนออกนอกบ้านทุกครั้งด้วยนะคะ
ที่มา : http://www.dhammathai.org/pray/dbview.php?No=21