นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยหลักเกณฑ์การแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และการกักตัวในชุมชน (Community Isolation) สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ประกอบด้วย
- ผู้ป่วยต้องสมัครใจ และสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้
- สถานที่ต้องเหมาะสม ใช้จุดแข็งของไทย คือ บ-ว-ร (บ้าน วัด โรงเรียน) แบ่งเป็น
Home Isolation หรือ กักตัวที่บ้าน
- ต้องเป็นผู้ป่วย อายุไม่เกิน 60 ปี ไม่มีภาวะอ้วน ไม่มีโรคร่วม เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจ เบาหวาน
- ต้องยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง และต้องมีห้องนอนแยก อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน
ขั้นตอน
- ผู้ป่วยต้องลงทะเบียนกับสถานพยาบาล (มีแผนขยายไปยังชุมชนอบอุ่น และสถานพยาบาลใกล้บ้าน)
- แพทย์ พยาบาล ติดตามอาการวันละ 2 ครั้ง ผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์ วิดีโอคอล และมีช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน รวมถึง สปสช.จะสนับสนุนงบประมาณค่าอาหารให้กับผู้ป่วย 3 มื้อ
- ผู้ป่วยจะได้รับเครื่องวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด และแนะนำวิธีทดสอบง่ายๆ (กรณีสงสัยว่าปอดมีปัญหาหรือไม่ ให้วัดออกซิเจนในเลือดก่อน และออกกำลังกายลุกนั่ง 1 นาที จากนั้นวัดซ้ำหลังทำ หากปริมาณออกซิเจนลดลงมากกว่า 3 % แพทย์จะรับมารักษาที่โรงพยาบาล และมีระบบรีเฟอร์ผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน
Community Isolation หรือ กักตัวในชุมชน - ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรือ มีอาการเล็กน้อย ที่ไม่ต้องใช้เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดขั้นตอน
- กรมการแพทย์ กทม. โรงเรียนแพทย์ ได้เตรียมสถานที่แล้ว ส่วนใหญ่ใช้สถานที่โล่งๆ เช่น ศาลาวัด หรือ หอประชุมโรงเรียน แคมป์คนงาน หรือ หมู่บ้าน ที่มีที่แยกตัวให้กับผู้ป่วย แต่ไม่ควรเกิน 200 คน เพื่อลดความแออัด
- หน่วยงานข้างต้น จะดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ แยกน้ำเสีย หรือ ขยะออกจากชุมชน รวมถึง สปสช.จะสนับสนุนงบประมาณค่าอาหารให้กับผู้ป่วย 3 มื้อ
ทั้งนี้ สองมาตรการดังกล่าวได้เริ่มทำแล้ว ที่โรงพยาบาลราชวิถี จำนวน 20 ราย พบได้ผลดี ทุกรายอาการดีขึ้น ส่วนการลงทะเบียน Home Isolation พบลงทะเบียนที่ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และ รพ.นพรัตน์ราชธานี 200 กว่าราย และขึ้นทะเบียน Community Isolation อีกกว่า 200 ราย และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมแล้วประมาณ 400 – 600 ราย เพื่อให้ผู้ติดเชื้อได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว ผู้ติดเชื้อที่ต้องการร่วมโครงการ ติดต่อได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือ โทรสายด่วน 1330
