(16 ก.ค.64) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมศูนย์พักคอยสำหรับเด็กเพื่อส่งต่อ บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกาย เขตดุสิต โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ สำนักการอนามัย สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สำนักงานเขตดุสิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูล
กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ หรือ Community Isolation เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต โดยแยกผู้ป่วยออกมาจากบ้านมายังศูนย์พักคอย เพื่อคัดกรองอาการและดูแลในเบื้องต้น รอการส่งต่อไปรักษา ณ สถานพยาบาลที่เหมาะสม ลดปัญหาการแพร่ระบาดและติดเชื้อของคนในครอบครัวและชุมชน สำหรับการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อนั้น กรุงเทพมหานครได้พิจารณาคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานที่ ความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออก หากมีผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยปรับปรุงสถานที่ให้มีความเหมาะสมมีองค์ประกอบครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขอนามัย จุดคัดกรองผู้ป่วย จุดวัดอุณหภูมิและวัดค่าออกซิเจน จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม ติดตั้งเตียงจัดวางที่นอน ตรวจสอบและติดตั้งระบบไฟฟ้าเพิ่มเติม ระบบเสียงตามสาย ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ระบบอินเตอร์เน็ต ติดตั้งพัดลม ฉีดพ่นยากำจัดยุงลาย ทำความสะอาดห้องน้ำและห้องสุขา ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อ ตลอดจนสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจและประสานสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ร่วมดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครและศูนย์บริการสาธารณสุขเป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน โดยเฉพาะครอบครัวที่พ่อแม่ติดเชื้อโควิด-19 อาจจะทำให้ลูกติดเชื้อตามไปด้วย หรือกรณีที่ลูกติดเชื้อโควิด-19 แต่พ่อแม่ไม่ติดเชื้อ ทำให้ต้องแยกผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาล เพื่อเป็นการบรรเทาและแก้ไขปัญหา รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของคนในครอบครัว กรุงเทพมหานคร จึงได้จัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับเด็กเพื่อส่งต่อ บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกาย เขตดุสิต โดยปรับปรุงพื้นที่ชั้น 3 จัดทำเป็นสถานที่ดูแลผู้ป่วยเด็กตั้งแต่อายุ 3-14 ปี สามารถรองรับผู้ป่วยเด็กได้ 52 เตียง แบ่งเป็นชาย 26 เตียง และหญิง 26 เตียง แบ่งแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนเรียบร้อย ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลของพ่อแม่ในการดูแลลูก ลดความกดดันของเด็กที่ต้องแยกกักตัวจากพ่อแม่ โดยที่ศูนย์พักคอยสำหรับเด็กแห่งนี้ จะมีกิจกรรมและของเล่นตามช่วงวัย เพื่อให้เด็กได้มีกิจกรรมผ่อนคลายในช่วงที่ต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่ โดยมีทีมแพทย์จากวชิรพยาบาล เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วยเด็ก รวมทั้งมีอาสาสมัคร พี่เลี้ยงเด็ก ครูอาสาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และหากมีอาการที่จะต้องเข้ารักษาพยาบาล ก็สามารถส่งเข้าโรงพยาบาลได้ทันที โดยวันนี้มีผู้ป่วยเด็กเข้าพักที่ศูนย์ฯ ดังกล่าว จำนวน 3 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 2 ราย
ในวันเดียวกัน นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจเชิงรุก และศูนย์พักคอย พื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง โดยจุดตรวจเชิงรุกในพื้นที่วัดสามัคคีธรรม เขตวังทองหลาง ให้บริการระหว่างวันที่ 16-18 ก.ค.64 เป้าหมายการตรวจวันละ 500 คน โดยมีโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ เป็นผู้ให้บริการตรวจ สำหรับระบบการแจกคิว จะแจกคิววันต่อวัน หากคิวเต็มจะประกาศให้ประชาชนที่มารับบริการทราบ ส่วนจุดตรวจเชิงรุก สำนักงานเขตราชเทวี เป็นการให้บริการตรวจกับข้าราชการและบุคลากร ในสำนักงานเขตราชเทวี ซึ่งถือเป็นด่านหน้าในการปฏิบัติงานจึงมีความเสี่ยงสูง รวมเป้าหมายตรวจ ประมาณ 1,100 คน
จากนั้นรองปลัดกรุงเทพมหานครเดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมการจัดตั้งศูนย์พักคอย ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 เขตดินแดง ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ไม่แสดงอาการหรือกลุ่มสีเขียวได้จำนวน150 เตียง ขณะนี้ได้เร่งปรับปรุงสถานที่ จัดหาเตียงกระดาษ อุปกรณ์เครื่องนอน และติดตั้งระบบการสื่อสาร กำหนดเปิดรับผู้ป่วยได้ในวันที่ 20 ก.ค.นี้