ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนประชาชนงดคิด “6 อย่า” ช่วงโควิด-19 เพื่อรักษาตัวให้แข็งแรง เท่ากับเป็นการช่วยประเทศ โดยระบุไว้เป็นข้อ ดังนี้
- อย่าทนงตนว่า….เป็นหนุ่มสาวหรือไม่มีโรคประจำตัวแล้วไม่เป็นไร
นอกจากจะเป็นตัวแพร่เชื้อ ที่มีประสิทธิภาพแล้ว เราเห็นกันแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นในโรงพยาบาลขณะนี้ ที่คนแข็งแรงอาการหนักได้ - อย่าคิดว่า….เมื่อติดเชื้อแล้ว และเริ่มมีอาการจะรักษาง่ายๆ
กลไกของการติดเชื้อเมื่อเข้าร่างกายแล้วจะเพิ่มจำนวน และถ้าหยุดยั้งไม่ได้ หรือ ไม่ทันเชื้อจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกระบบ ที่ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงกว่าเชื้อไวรัสอื่นๆ จากผลของการอักเสบจะกระทบทุกอวัยวะในร่างกาย และทำให้เลือดข้น เกิดลิ่มเลือดเล็กๆ ทั่วไปด้วย - อย่าคิดว่า….มียาต้านไวรัสแค่นั้นก็พอ
เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นจำเป็นต้องให้ยากดการอักเสบ ซึ่งทำให้ติดเชื้ออื่นได้ง่ายขึ้นจากการกดภูมิคุ้มกันและปอดอักเสบที่เห็นนั้น จะกลายเป็นทั้งจากไวรัสและแบคทีเรียซ้ำซ้อน - อย่าคิดว่า….ถ้าตัวเลขลดลง หมายความว่าต่อไปนี้ไม่ต้องระวังตัวแล้ว
ต้องเข้าใจข้อจำกัดของการที่จะตรวจให้ได้ทุกคนในทุกพื้นที่ของประเทศ แม้ว่าตัวเลขจะลดลงก็ตามยังคงมีผู้ติดเชื้อที่ไม่รู้ตัวและไม่แสดงอาการอยู่ทั่วไปได้ - อย่า….เข้าไปในสถานที่แออัด ที่อับ อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
สถานที่ดังกล่าวและยิ่งมีคนที่แพร่เชื้อได้หลายคน โอกาสที่จะได้รับเชื้อยิ่งสูงขึ้นและจำนวนเชื้อมากขึ้นตั้งแต่ต้น เชื้อที่อยู่กับละอองฝอยจะอบอวลอยู่ในอากาศได้นาน และแม้เมื่อตกพื้นไปแล้วการเดินจะกระพือให้ละอองฝอยเหล่านี้ลอยขึ้นอีก (จากข้อมูลของประเทศจีนตั้งแต่ปี 2563) - อย่า….นิ่งนอนใจในภาวะโรคประจำตัวทุกอย่าง ต้องคุมให้ได้
โรคประจำตัวจะเปิดโอกาสทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เกี่ยวข้องกับกลไกในการรับเชื้อและการเพิ่มจำนวนของเชื้อได้เก่งขึ้น นอกจากนั้น โรคประจำตัวหลายชนิดจะมีลักษณะของการเอื้อให้เกิดมีการอักเสบในร่างกายอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ การอักเสบของข้อ การรักษาจะยิ่งซับซ้อนขึ้น ทั้งจากโควิด-19 เอง และโรคประจำตัวที่ปะทุซ้ำซ้อนขึ้น
ทั้งนี้ ต้องรักษาตัวให้แข็งแรง คุมโรคประจำตัวให้หมดจดที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลีกเลี่ยงการเอาตัวเข้าไปในที่เสี่ยง “ช่วยตัวเองได้ = ช่วยคนไทยทั้งประเทศ”