โควิด – 19 แพร่ระบาด ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยหยุดชะงัก รัฐบาลจึงกำหนดมาตรการต่างๆ อย่างการล็อกดาวน์เมือง เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ประชาชนก็เลยต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตไปด้วย อย่างการออกไปจับจ่ายซื้อของ จากเดิมที่เคยเดินทางได้แบบอิสระ ก็ต้องปรับเปลี่ยน สั่งซื้อของทางออนไลน์แทน
เช่นเดียวกับผู้ประกอบการ ธุรกิจต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบ เปิดหน้าร้านขายสินค้าไม่ได้ ต้องปรับมาขายสินค้า ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย อาทิ Facebook , line , Instagram , Twitter ก่อนนำส่งพัสดุทางไปรณีย์ เพื่อจัดส่งสินค้าให้ถือมือผู้รับ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ “แฟรนไชส์ไปรษณีย์” กลายเป็นธุรกิจที่รุ่งเรืองอย่างมาก หลายบริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างมาก อย่างร้าน J&T EXPRESS สาขามหาสวัสดิ์ จ.นนทบุรี ของคุณชัชชญา ธนีสันต์ หรือ คุณโบว์ ที่ทำธุรกิจนี้มานานกว่า 1 ปี ปัจจุบันมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่าหลักแสนบาท
SME ทันข่าว มีค่า นิวส์ จึงชวนคุณโบว์ มาแชร์ประสบการณ์ ทำธุรกิจ “แฟรนไชส์ไปรษณีย์” สำหรับคนที่สนใจลงทุน ต้องทำอย่างไรบ้าง และใช้เทคนิคอะไร จึงมีรายได้สูงหลักแสนบาทต่อเดือนขนาดนี้ อ่านรายละเอียดพร้อมกันที่นี่!
บอกเล่า จุดเริ่มต้น และแรงบันดาลใจ ก่อนตัดสินใจลุยธุรกิจ “แฟรนไชส์ไปรษณีย์”
คุณโบว์ เล่าว่า ทำงานด้านสื่อมวลชนมาถึง 6 ปี ตัดสินใจลาออกมาแต่งงานสร้างครอบครัว เนื่องจากอาชีพสื่อไม่ค่อยมีเวลา จึงตัดสินใจออกมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว จากนั้นพอเข้าสู่สถานการณ์โควิด จากที่สามีเป็นคนทำงานเพียงคนเดียว และมีอาชีพเกี่ยวกับการนำเข้าจากต่างประเทศก็เริ่มติดขัด และต้องนำเงินเก็บออกมาใช้
จึงตัดสินใจจะเริ่มต้นธุรกิจด้านสปา ตกแต่งร้านไว้หมดแล้ว ยังไม่ทันเปิดทำธุรกิจ ปรากฏว่า รัฐบาลประกาศให้ธุรกิจด้านเสริมความงาม สปา นวด ปิดให้บริการเสียก่อน เลยช่วยกันคิดกับสามีและครอบครัวว่า จะทำธุรกิจอะไรดี ที่สามารถเปิดได้ช่วงโควิด มีรายได้ตลอด จึงเกิดเป็นธุรกิจ “แฟรนไชส์ไปรษณีย์” ขึ้นมา เลยเอาร้านสปาเดิมที่ตกแต่งไว้แล้ว มาปรับเป็นร้านส่งพัสดุแทน ซื้อแฟรนไชส์ของ J&T Express และเริ่มทำธุรกิจในปี 2563 ตอนนี้ครบ 1 ปีกว่าแล้ว
ขั้นตอนทำธุรกิจ ใช้เงินทุนเท่าไหร่ ต้องทำอะไรบ้าง
สำหรับการเริ่มทำธุรกิจ “แฟรนไชส์ไปรษณีย์” คุณโบว์ บอกว่า ใช้เงินลงทุนเป็นค่าแฟรนไชส์ และค่าอุปกรณ์ 2 แสนบาท และค่าตกแต่งร้าน เช่น ซื้อโต๊ะ เก้าอี้ อีกประมาณไม่เกิน 1 แสนบาท (แล้วแต่การตกแต่งของแต่ละคน) รวมถึงค่าเช่าสถานที่ รวมไม่เกิน 3 แสนบาท มีขั้นตอน ดังนี้
1.หาทำเลที่ตั้งร้านก่อน โดยเลือกดูที่คนพลุกพล่าน เป็นย่านชุมชน ก่อนตัดสินใจเช่าสถานที่ตรงข้ามห้างสรรพสินค้า บ้าน แอนด์ บียอนด์ สาขาราชพฤกษ์
2.จากนั้นหาข้อมูลแฟรนไชส์ ว่ามีบริษัทไหนเปิดรับ ณ ขณะนั้นบ้าง แล้วโทรไปสอบถามข้อมูล ถามรายละเอียดว่า ต้องลงทุนเท่าไหร่ ได้กำไรเท่าไหร่
3.เมื่อได้แฟรนไชส์แล้ว ก็เซ็นต์สัญญา ตกแต่งร้าน
4.เมื่อพร้อมแล้ว ลองเปิดร้านก่อน 1 สัปดาห์ เพื่อดูแนวโน้มลูกค้า พร้อมจัดโปรโมชั่นดึงลูกค้าเข้าร้านให้มากที่สุด เพื่อให้มีฐานลูกค้าประจำ
รายได้ต่อเดือนเป็นอย่างไร และมีอุปสรรคในการทำธุรกิจหรือไม่
คุณโบว์ ยอมรับว่า ช่วงแรกมีลูกค้ามาส่งพัสดุ ไม่เกิน 10 ชิ้นต่อวัน ซึ่งพัสดุทุกชิ้น เราได้กำไรที่ 20% ทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ ถือว่าขาดทุน จนทำให้ท้อแท้ คิดว่า ตัดสินใจถูกแล้วหรือไม่ แต่สามีก็คอยให้กำลังใจ เพื่อให้สู้ต่อ โดยสามียอมควักเงินส่วนตัว ทำการตลาดอย่างหนัก ทั้งจัดทำใบปลิว ลงทุนขับรถไปแจกตามบ้าน ชุมชน บริษัทต่างๆ พร้อมจัดโปรโมชั่น ทำป้ายใหญ่ๆติดหน้าร้าน ลูกค้าใหม่ ส่งฟรี 5 ชิ้นแรกต่อวัน 7 วัน
และไม่น่าเชื่อว่า ทำให้ลูกค้าสนใจร้านมากขึ้น เดินถือใบปลิวมาที่ร้าน และบอกต่อกันปากต่อปาก จนปัจจุบัน มีลูกค้าประจำเยอะมาก มีพัสดุส่งต่อวัน รวม 500-1,000 ชิ้น รวมรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำหลักแสนบาท! จนสามารถคืนทุนได้ทั้งหมด
ส่วนอุปสรรคในการทำธุรกิจ
คุณโบว์ บอกว่า เป็นเรื่อง “การต่อสู้กับคู่แข่ง เราจะทำอย่างไรให้ลูกค้าส่งพัสดุกับเราต่อเนื่อง ดังนั้น การดูแลลูกค้า จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่รับส่งพัสดุแล้วจบไป แต่เราต้องทำมากกว่านั้น เช่น ตามพัสดุให้ลูกค้า ให้ส่งถึงมือผู้รับโดยเร็วที่สุด ดูแลเขาให้ดีที่สุด”
ตั้งแต่โควิดระบาดทุกรอบ จนถึงรอบ 3 ธุรกิจได้รับผลกระทบหรือไม่
ไม่ได้รับผลกระทบเลย มีลูกค้าเข้าร้านแน่นทุกวัน เรียกได้ว่า เป็นยุครุ่งเรืองของการทำธุรกิจ “แฟรนไชส์ไปรษณีย์” ก็ว่าได้ ซึ่งคุณโบว์ คิดว่า อาจเป็นเพราะโควิด ทำให้คนเริ่มหาอาชีพเสริม ขายของออนไลน์ ส่งพัสดุกันมากขึ้น จึงทำให้คุณโบว์ มีรายได้คงที่ ไม่ต่ำหลักแสนบาทต่อเดือน!
รายได้ปังแบบนี้ มีเทคนิคอย่างไร ?
1.ความใส่ใจ ดูแลลูกค้าทุกคนให้ดีที่สุด โดยให้คิดไว้เสมอว่า ลูกค้าหนึ่งคน วันนี้เขามาส่งของ 1 ชิ้น แต่ถ้าเราดูแลเขาดี อนาคตเขาอาจเป็นลูกค้าประจำ มาส่งของเยอะขึ้น แล้วแนะนำร้านเราให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นก็ได้ เราจึงต้องดูแลลูกค้าทุกคน ไม่ใช่ดูแลเฉพาะลูกค้าที่ส่งของเยอะอย่างเดียว
2.คิดวิเคราะห์ให้ดี ทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบ เพราะช่วงโควิด ถ้าจะลงทุนอะไร มีความเสี่ยงทั้งหมด เราต้องบริหารจัดการเงินทุนให้ดี
อนาคตวางแผนกับธุรกิจไว้อย่างไร
คุณโบว์ วางแผนว่า ทำสัญญาเช่าร้านไว้ 3 ปี แพลนว่าอยากจะซื้อสถานที่ตั้งร้านไว้เลย เพราะมีลูกค้าประจำแล้ว และคงไม่ย้ายไปที่ไหนอีก รวมถึงจะเปิดแฟรนไชส์ไปรษณีย์อีกแห่งหนึ่งด้วย ตั้งอยู่ในโซนอเวนิว ตลาดธนบุรี อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าสามารถเปิดทำธุรกิจได้ในเดือนมกราคม 2565
แชร์กำลังใจถึงผู้ประกอบการรายอื่น
“โบอยากฝากถึงทุกคนว่า การบริหารธุรกิจช่วงโควิด ขอให้คิดวิเคราะห์ให้ดี อยากให้มีสติ ใจเย็นๆ ถ้าธุรกิจไม่ตอบโจทย์ ลองคิดหาทางออกใหม่ เพื่อให้เราอยู่ต่อได้ ฝ่าวิกฤตโควิดนี้ไปให้ได้”