สถานการณ์ COVID-19 ระลอก 3 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารไม่น้อยเลยค่ะ แม้รัฐบาลจะมีการผ่อนปรนให้ร้านอาหาร กลับมาเปิดให้ลูกค้านั่งทานอาหารในร้านได้ ภายใต้มาตรการป้องกันการติดเชื้อที่เข้มข้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายหน้าร้านดีขึ้น การเพิ่มช่องทางขายอื่น ๆ เพื่อดึงยอดขายจากลูกค้า จึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างร้าน “ฉางเฝิ่น” ร้านอาหารฟิวชันสไตล์กวางตุ้ง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดร้านช่วงปลายปี 2563 ที่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด จนถึงปัจจุบัน เกือบ 1 ปีแล้ว โดยที่ยอดขายของร้าน คงอยู่ที่หลักหมื่นบาทต่อเดือน
มีค่า นิวส์ จึงชวนคุณชนนิกานต์ ตาอินต๊ะ หรือ คุณฝ้าย เจ้าของร้าน “ฉางเฝิ่น” มาพูดคุยว่าเธอมีกลยุทธ์อย่างไร ติดตามพร้อมกันที่นี่ SME ทันข่าวค่ะ
แรงบันดาลใจของการเปิดร้าน คือ การได้ลองชิมเมนู “ฉางเฝิ่น”
คุณฝ้าย เล่าย้อนว่า หลังเรียนจบชั้นปริญญาตรี เธอทำงานอยู่ในสายการบินแห่งหนึ่ง และได้รับทุนไปเรียนภาษาจีน ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน 1 ปี ระหว่างนั้น มีโอกาสได้ลองชิมเมนู “ฉางเฝิ่น”หรือ ก๋วยเตี๋ยวหลอดเส้นสด สไตล์กวางตุ้ง หนึ่งในอาหารเช้าขึ้นชื่อของชาวกวางตุ้งแล้วชื่นชอบ จนกลับมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เลยปรึกษากับสามีชาวจีนว่าอยากเปิดร้านขายเมนู “ฉางเฝิ่น”
ขั้นตอนเริ่มทำธุรกิจ ลงทุนเท่าไหร่ มีรายได้ต่อเดือนอย่างไร
คุณฝ้าย ใช้เงินลงทุนทำธุรกิจร้านอาหาร “ฉางเฝิ่น” เกือบแสนบาท เริ่มจากการหาทำเลตั้งร้าน ตอนนั้นเพื่อนของคุณฝ้ายเช่าที่ทำธุรกิจ จึงแบ่งให้คุณฝ้ายเช่า 1 ล็อก จากนั้นคุณฝ้ายและสามีก็ลงมือตกแต่งร้าน ทั้งทาสี ทำป้ายร้านด้วยเอง โดยมีเพื่อน ๆ คอยช่วย
เมื่อได้ร้านที่พร้อมขายแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ เมนูหลักของร้านอย่าง “ฉางเฝิ่น” ซึ่งคุณฝ้าย บอกว่า เธอคิดค้นสูตรกับสามีเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำแป้ง น้ำซอส ผักเครื่องเคียง อย่างพริกสับและพริกดอง ที่เธอคิดสูตรขึ้นมาเป็นพิเศษ
ส่วนเรื่องรายได้ คุณฝ้าย บอกว่า เกินความคาดหมายมาก ๆ เพราะวันแรกของการเปิดร้านก็มีรายได้หลักพันบาทแล้ว เนื่องจากมีชาวจีน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านมาเห็นแล้วรู้สึกคิดถึงบ้านแวะเวียนมาชิมตลอดวัน เช่นเดียวกับคนไทยเห็นว่าเป็นเมนูที่แปลก จึงแวะชิม
ทำให้ภายใน 3 เดือนแรก รายได้พุ่งไปถึงหลักหมื่นบาทต่อเดือน จึงตัดสินใจจ้างพนักงานมาช่วยงานในร้าน 3 คน รวมถึงเพิ่มเมนู จูตู้จี (หม้อไฟสไตล์กวางตุ้ง) และจีกงเปา (ไก่หม้อไฟผัดแห้ง) ในช่วงเย็นด้วย จากเดิมขายเพียงเมนู “ฉางเฝิ่น” ช่วงเช้าอย่างเดียว
นำไปสู่รายได้คงที่หลักหมื่นต่อเดือนมาจนถึงปัจจุบัน โดยเคล็ดลับของคุณฝ้าย เธอบอกว่า ยึดหลักการทำธุรกิจที่ว่า “เราต้องจริงใจต่อตัวเองและลูกค้า ให้คิดในมุมว่าเป็นลูกค้าเอง เรารับประทานอาหารในร้านแล้วเราคาดหวังอะไร และทุกครั้งที่ปรุงอาหารให้ลูกค้า จะคิดเสมอว่า เหมือนทำให้ตัวเองทาน ต้องสะอาด อร่อย ถ้าไม่ได้มาตรฐานตามนี้ ทางร้านจะไม่ใช้เลย ดังนั้น การจริงใจกับตัวเอง และลูกค้า จึงสำคัญมากสำหรับฝ้าย”
ร้าน “ฉางเฝิ่น” เริ่มทำธุรกิจในยุคโควิด มีอุปสรรคเกิดขึ้นหรือไม่ รับมืออย่างไร
แม้จะเริ่มทำธุรกิจในช่วงโควิด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในระยะหลัง คือ ลูกค้าหน้าร้านลดลง จนเธอท้อ แต่สุดท้ายก็ฮึดสู้ต่อ เพราะลงทุนทำร้านด้วยตัวเองมาตั้งแต่ต้น ถ้าจะล้มเลิกไปก็เสียดาย ทำให้คุณฝ้าย ต้องปรับกลยุทธ์การขายใหม่ ดังนี้
1.เพิ่มการขายทางออนไลน์ ด้วยวิธีโพสต์ขายในกลุ่มร้านอาหาร เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
2.เพิ่มเซอร์วิสให้ลูกค้า เช่น ถ้าสั่งออนไลน์ จะไปส่งให้ถึงที่บ้าน ในตัวเมืองเชียงใหม่ส่งฟรี อำเภออื่น ๆ ค่าส่งสูงสุดเพียง 20-30 บาท
3.เน้นเรื่องคุณภาพของอาหารทุกจาน ต้องสะอาด สดใหม่ เพื่อลูกค้าจะได้ประทับใจ
4.เน้นบริการลูกค้า โดยย้ำกับพนักงานเสมอว่า ขอให้บริการลูกค้าให้เต็มที่ และดีที่สุด
แพลนขยายธุรกิจในอนาคต สำหรับร้าน “ฉางเฝิ่น”
คุณฝ้าย มีแพลนว่า อยากจะขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง คือ ที่บ้านเกิด อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เหตุผลที่ว่า อำเภอหางดง มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะ และคนจีนจะชอบความสงบ อาศัยอยู่ที่นั่นเยอะกว่าในตัวเมืองเชียงใหม่ จึงอยากลองเปิดตลาดที่นั่นดู
กำลังใจถึงผู้ประกอบการคนอื่น สู้โควิดระลอก 3
“ถ้าท้อ ก็พักก่อน เพื่อให้จิตใจเราดีขึ้น ลองอยู่กับตัวเองคิดทบทวน ลองทำสิ่งใหม่ที่เรายังไม่เคยทำจากนั้นเมื่อมีกำลังใจพร้อมสู้ ก็ค่อย ๆ คิดหาทางออก แล้วเราจะผ่านพ้นไปได้ค่ะ”
ติดตามเฟซบุ๊กร้าน : https://www.facebook.com/changfen.official/
ขอบคุณรูปภาพ : เพจ iChiangmai, ฉางเฝิ่น 肠粉