นาย ศิริอนันต์ วิสุทธิวัฒน์ เจ้าของ ศิริอนันต์ ฟิตเนส อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า หลังจากที่มีประกาศให้เปิดฟิตเนส ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากปิดให้บริการไปนาน ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะปิดก็มีค่าใช้จ่ายทุกวัน โดยการเปิดให้บริการครั้งนี้ก็หวังว่าจะเปิดให้นานๆ ซึ่งรายได้หลักของฟิตเนสทั้งหมดมาจากสมาชิกรายเดือนปี และรายเดือน ซึ่งจะมีผลต่อลูกค้าที่เดินทางมาใช้บริการ ถ้าปิดๆ เปิดๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้
นาย ศิริอนันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมองว่าในวงการฟิตเนสส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่รักสุขภาพร่างกาย ลูกค้าที่เดินทางมาฟิตเนสก็ต้องระมัดระวังการแพร่ระบาด ส่วนพนักงานฟิตเนสก็ต้องดูแลสุขภาพเช่นกันถ้าเกิดมีการระบาดจากฟิตเนสก็อาจจะส่งผลกระทบได้ จากการสั่งปิดรอบแรกทางฟิตเนสก็ให้ความร่วมมือปิดให้บริการ โดยพนักงานก็ยังดูแลพนักงานกันต่อไป แต่พอมาปิดรอบที่สองที่สาม พนักงานหลายคนก็ลาออกกันไปทำงานอย่างอื่นเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ซึ่งในปัจจุบันเมืองพัทยาก็ได้เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้หลายคนมีภูมิคุ้มกันจากโควิด-19 หวังว่าการเปิดครั้งนี้จะไม่โดนสั่งปิดอีก ซึ่งโควิด-19 ก็ยังคงต้องอยู่กับเราต่อไป เราต้องปรับตัว และฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง และไม่ไปใกล้ชิดผู้คนที่ไม่รู้จักเราก็สามารถที่จะควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ในส่วนของความคิดเห็นอยากวอนให้ภาครัฐสั่งปิดเป็นรายๆ ไปหากมีการแพร่ระบาด ซึ่งไม่ใช่สั่งปิดกิจการทั้งหมดเพราะทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างได้ ซึ่งตอนนี้ทางเราก็ได้แต่ประคองธุรกิจของตัวเองเพื่อให้ได้เปิดบริการอีกครั้ง จะได้เรียกพนักงาน และเทรนเนอร์กลับมาทำงานเหมือนเดิม อยากให้ภาครัฐเข้าใจกลุ่มคนที่รักสุขภาพ แต่ถ้าเกิดคลัสเตอร์ในฟิตเนสก็อาจจะส่งผลกระทบในการปิดกิจการแบบไม่มีกำหนด การกลับมาเปิดฟิตเนสอีกครั้ง ทางฟิตเนสก็ต้องมีมาตรการที่คุมเข้มมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการเช็คลูกค้าทุกครั้งที่มาใช้บริการในฟิตเนส ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาเล่นฟิตเนสจะเว้นระยะห่างโดยต่างคนต่างเล่น เพราะในฟิตเนสมีอุปกรณ์การออกกำลังกายเป็นจำนวนมากจึงทำให้ลูกค้าสามารถเลือกเล่นในระยะที่ห่างกันได้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้