นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 ดูแลพื้นที่ จ.นครราชสีมา ติดตามและประเมินสถานการณ์เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในโรงพยาบาลมหาราชนคราชสีมา พบว่า แนวโน้มระดับน้ำยังคงสูงขึ้น จากน้ำล้นเขื่อนลำตะคอง ทำให้น้ำจากลำตะคองที่ไหลผ่านตัวเมืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนและบริเวณโดยรอบสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และเขื่อนเล็กข้างโรงพยาบาลแตก ทำให้น้ำท่วมหน้าอาคารเด็กและซักฟอก สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร แต่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ มีเพียงประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบในการเข้าออกพื้นที่โรงพยาบาล จึงประสานทหารจัดรถบรรทุกยกสูงมาช่วยรับส่งเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย รวมถึงเตรียมให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทำสะพานเดินข้ามเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้เตรียมความพร้อมและแผนรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยวางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาล เร่งดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่ ขนย้ายอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ขึ้นที่สูงเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหาย สำรองยาและเวชภัณฑ์ในการดูแลผู้ป่วย และจัดหน่วยบริการเชิงรุกดูแลผู้ประสบอุทกภัย ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ให้ได้รับการดูแลรักษาและไม่ขาดยา เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วม ทั้งเชื้อรา น้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู อาหารเป็นพิษ เป็นต้น หากโรงพยาบาลได้รับผลกระทบในการดูแลผู้ป่วย มีแผนส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสนับสนุนถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ อ.ขามทะเลสอ ส่วน รพ.สต.พื้นที่ อ.ด่านขุนทด ระดับน้ำลดลงแล้ว ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 12 อำเภอ ได้แก่ เมือง, โนนสูง, สีคิ้ว, พิมาย, ด่านขุนทด, สูงเนิน, ขามทะเลสอ, ปักธงชัย, คง, เมืองยาง, ประทาย และชุมพวง มีผู้เสียชีวิต 11 ราย จัดตั้งศูนย์พักพิง 15 แห่ง