หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด- 19 (ศบค.) ประกาศมาตรการผ่อนคลายให้ “ร้านนวด สปา” กลับมาเปิดบริการได้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา จึงทำให้ผู้ประกอบการ “ร้านนวด สปา” ยิ้มได้ และมีกำลังใจในการฮึดสู้กับโควิด-19 แม้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
มีค่า นิวส์ มีโอกาสคุยกับคุณพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย และเจ้าของร้านจารวี สปา แอนด์ มาสสาจ เปิดเผยถึงภาพรวมการประกอบกิจการร้านนวด สปา ในประเทศไทย หลังจากรัฐบาลคลายล็อกดาวน์แล้ว โดยคุณพิทักษ์ ระบุว่า ขณะนี้ร้านนวด สปา ยังต้องประคองธุรกิจของตัวเอง
เนื่องจากลูกค้ายังไม่กลับมาใช้บริการเต็ม 100% จากสถิติตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา พบลูกค้ามาใช้บริการเพียง 40-50% เท่านั้น ถือว่ายังอยู่ในภาวะวิกฤต คาดว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้นจากนโยบายเปิดประเทศ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการร้านนวด สปา หลายรายไม่สามารถประคองธุรกิจไว้ได้ ต่างพากันเซ้งกิจการ ล้มเลิกกิจการสาเหตุคาดว่ามีอยู่ 3 ประการ ดังนี้
1.ไม่มีเงินทุนมาต่อยอดธุรกิจ กู้ยืมธนาคารไม่ได้ หลายรายค้างค่าเช่า เพราะไม่มีรายได้
2.พนักงานนวดขาดแคลน เนื่องจากเมื่อถูกสั่งปิด นายจ้างไม่ได้จ้างงานต่อ พนักงานนวดหลายคนหันไปทำอาชีพอื่น
3.แม้จะคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่ลูกค้ายังไม่กลับมาใช้บริการ เนื่องจากปัจจัยด้านอื่น เช่น มีหลายบริษัทลดเงินเดือนพนักงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้ลูกค้าต้องประหยัดมากขึ้นตามไปด้วย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องรัฐบาล ช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เพราะปัจจุบันธนาคารไม่ได้ผ่อนปรนมาตรการกู้เงิน เช่น บางสินเชื่อ บังคับขอ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน แต่เนื่องจากที่ผ่านมา ร้านนวด สปา ไม่มีรายได้ ทำให้ไม่รู้จะเอา Statement จากที่ไหนมาให้เป็นหลักฐาน จึงอยากให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านนวด สปา อย่างจริงจัง ผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้มีเงินทุนก้อนใหม่ มาใช้จ่าย ธุรกิจจะได้เดินหน้าต่อไป