พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 16 พฤศจิกายน 2564 นอกสถานที่ (ครม.สัญจรฯ) ณ โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท โดยได้อนุมัติการกู้เงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท สำหรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ระดับ 30 บาท/ลิตร เนื่องจากปัจจุบันสถานะของกองทุนน้ำมันติดลบ ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันฯ ใช้เงินไปเดือนละประมาณพันล้านบาทตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับดังกล่าว ครม.จึงอนุมัติเงินกู้มาสำรองไว้ใช้ในช่วง 4 เดือนข้างหน้า ถ้าราคาน้ำมันลดลงก็ไม่มีปัญหา สถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ปกติ
“มีหลายสมาคมฯ และมีคนจำนวนมาก ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเรายืนยันว่า ต้องดูแลทุกคน แต่รัฐบาลต้องดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดังนั้น ขออย่าใช้แรงกดดัน และขอให้เห็นใจประเทศชาติในเวลานี้ อีกทั้งในวันนี้ (16 พ.ย.) ได้มีการมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดการขนส่งทางรถไฟ และจัดรถ บขส. เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า หรือ หากจำเป็นเพิ่มเติม จะให้รถทหารเข้ามาสนับสนุนด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับการขออนุมัติกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน ดังนี้
1.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ พ.ศ. …. โดยเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เป็นจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ 20,000 ล้านบาท
2.เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยกำหนดให้ สกนช. จะต้องเสนอเหตุผลความจำเป็นในการกู้เงิน รายละเอียดการกู้เงิน (แผนการกู้เงิน แผนการใช้จ่ายเงินกู้ และแผนการชำระหนี้) ต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนนำเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ การกู้ยืมเงินของ สกนช. ถือเป็นการก่อหนี้สาธารณะ สกนช. จะต้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3.อนุมัติการกู้ยืมเงิน โดยให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้ สกนช. ดำเนินการกู้เฉพาะวงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามกรอบของกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ และจะดำเนินการกู้เงินเพิ่มเติมวงเงิน 10,000 ล้านบาท ได้ต่อเมื่อ ร่าง พ.ร.ฎ.ฯ มีผลบังคับใช้แล้ว
อย่างไรก็ตาม แผนการกู้ยืมเงินและแผนการชำระหนี้ของ สกนช. จะเป็นการกำหนดรายละเอียดของการกู้ยืมเงินและระยะเวลาหรือช่วงเวลาในการดำเนินการต่าง ๆ
ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้ หลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และแผนการกู้ยืมเงินและแผนการชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยแผนการเบิกจ่ายเงินกู้ที่ สกนช.ประมาณการไว้จะเริ่มเบิกเงินกู้ประมาณเดือนมิถุนายน 2565