นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 รับทราบการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับปี 2565 จากบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด (Pfizer) เพิ่มเติม จำนวน 30 ล้านโดส และเห็นชอบการลงนามในสัญญา Third Amendment to Manufacturing and Supply Agreement ระหว่างกรมควบคุมโรคและบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้ดำเนินการเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทไฟเซอร์ จะจัดหาวัคซีน Pfizer เพิ่มเติมจำนวน 30 ล้านโดส โดยมีกำหนดส่งมอบในไตรมาสที่ 1 – 3 ของปี 2565 ครอบคลุมกรณีที่บริษัทไฟเซอร์ ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงวัคซีนในประเทศไทย (Adapted Product) จากวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ให้เป็นวัคซีนที่มีการพัฒนาใหม่ เมื่อมีการพัฒนาสำเร็จ เป็นวัคซีน Gen ใหม่ที่เป็นวัคซีนสำหรับเด็ก
ทั้งนี้ การดำเนินการจัดซื้อวัคซีนเป็นตามสัญญา Manufacturing and Supply Agreement ที่เป็นสัญญาหลัก ทำให้มีจำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยจัดซื้อจากบริษัทไฟเซอร์ รวมทั้งสิ้น 60 ล้านโดส ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ศบค.