นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 4 มกราคม 2565 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,125.56 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยจำนวน 17 จังหวัด แบ่งเป็นในส่วนของกรมทางหลวงจำนวน 1,649.12 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท จำนวน 476.44 ล้านบาท
กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-12 ตุลาคม 2564 เกิดอุทกภัยจากมรสุมที่พาดผ่านทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทำให้ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง
ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ ซึ่งทางกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและซ่อมแซมเส้นทาง เพื่อให้การจราจรผ่านได้ในระยะเร่งด่วนแล้วจำนวน 663 รายการ ครอบคลุมพื้นที่ 31 จังหวัด วงเงินรวม 7,987.83 ล้านบาท
สำหรับงานบูรณะทางหลวงแผ่นดินและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงภายใต้งบกลางฯ ที่เสนอครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่
1.ภาคเหนือ 3 จังหวัด คือ
เชียงราย, เชียงใหม่ และลำปาง
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด คือ
ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา และกาฬสินธุ์
3.ภาคกลาง 6 จังหวัด คือ
กำแพงเพชร, นครสวรรค์, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบูรณ์, ลพบุรี และสุโขทัย
4.ภาคตะวันตก 2 จังหวัด คือ
กาญจนบุรี และตาก
เป็นงานซ่อมแซมบูรณะ เช่น งานก่อสร้างและซ่อมสะพาน งานแก้ไขและป้องกันดินสไลด์ งานฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ รวม 69 รายการ วงเงิน 1,649.12 ล้านบาท
ส่วนงานบูรณะทางหลวงชนบทและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงชนบทที่เสนอครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่
1.ภาคเหนือ 2 จังหวัด คือ
เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด คือ
ชัยภูมิ
3.ภาคกลาง 3 จังหวัด คือ นครสวรรค์, กำแพงเพชร และสุโขทัย
4.ภาคใต้ 1 จังหวัด คือ ระนอง
มีงานซ่อมฟื้นฟูสภาพทาง งานซ่อมฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ งานป้องกันการกัดเซาะโครงสร้างทางรวม 31 รายการ วงเงิน 476.44 ล้านบาท