นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 มกราคม 2565 เห็นชอบร่างแผนงานคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก พ.ศ. 2564 – 2568 (ASEAN Commissionon the Promotion and Protection of the Rights of Women and Children: ACWC) (Draft ACWC Work Plan 2021 – 2025) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ซึ่งแผนงานคณะกรรมาธิการอาเซียนฯ ฉบับนี้ มีวิสัยทัศน์ คือ
1.การเป็นผู้นำในการดำเนินการที่สำคัญในระดับภูมิภาค
2.มุ่งขับเคลื่อนวาระและการสื่อสารปฏิสัมพันธ์
3.กระตุ้นให้เกิดการดำเนินนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวทางในการส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็กในอาเซียน
มีเป้าหมายที่สำคัญ เช่น
1.การวิเคราะห์ ศึกษา และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก
2.การจัดให้มีพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ การเสวนา และการเรียนรู้ระหว่างประเทศอาเซียน
3.การมีส่วนร่วมในกลไกระดับภูมิภาคในการดึงดูดการมีส่วนร่วมของเสาหลักของประชาคมอาเซียน เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสตรีและเด็กในภูมิภาค
สำหรับแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ
1.เชื่อมโยงกับเป้าหมายของอาเซียนที่ชัดเจนและการมีส่วนร่วมต่อแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน พ.ศ. 2568
2.สอดคล้องกับข้อตกลงสากลเช่นอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและปฏิญญาว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อสตรีปฏิญญาเวียดนาม โดยจะขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติผ่าน 4 รูปแบบ คือ
2.1 การมีส่วนร่วมและความร่วมมือกับอาเซียน
2.2 การเสริมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือและการระดมทรัพยากร
2.3 โครงสร้างเชิงสถาบันและบทบาท
2.4 การประเมินโครงการ ซึ่งการติดตามประเมินผลนั้น จะยึดกรอบผลลัพธ์และดัชนีชี้วัดความสำเร็จ เช่น
– จำนวนหน่วยงานและหุ้นส่วนที่จัดตั้งขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิสตรีและสิทธิเด็กในอาเซียนที่เพิ่มขึ้น
– จำนวนข้อคิดริเริ่มและโครงการที่เพิ่มขึ้น โดยองค์กรเฉพาะสาขาอาเซียนที่บูรณาการองค์ประกอบด้านสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก
– จำนวนกิจกรรมการเข้าถึงสื่อออฟไลน์ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดียของอาเซียนด้านสิทธิสตรีและสิทธิเด็กเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนาของประเทศจะต้องรับรองร่างแผนงานดังกล่าว เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป