น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 18 ม.ค. 2565 รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ครั้งที่ 1/2565 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
สืบเนื่องจาก กระทรวงคมนาคม รายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเชื่อมโยงทางรถไฟฯ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2565 ได้เห็นชอบแผนการก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกอบด้วย
1.โครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569
2.โครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) พิจารณารายงานการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(EIA) คาดว่าจะเสนอต่อ ครม.ภายในปี 2565 และเปิดให้บริการได้ในปี 2571
3.โครงการถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเสนอ ครม. ภายในเดือนม.ค. และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569
ประเด็นต่อมาที่ ครม.ได้มีการเห็นชอบ คือ การบริหารจัดการใช้ทางรถไฟและการใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขง ในส่วนของการบริหารจัดการสะพานเดิม ระหว่างรอกการก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ เพิ่มขบวนรถขาไป 7 ขวบน และขากลับ 7 ขบวน รวม 14 ขบวนต่อวัน รองรับสินค้าขบวนละ 25 แคร่
ส่วนการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ จะก่อสร้างใกล้กับสะพานเดิมอยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร มีทั้งรางรถไฟขนาดมาตรฐานและทางขนาด 1 เมตร ปัจจุบันได้ข้อตกลงว่าไทยและลาวจะร่วมลงทุนค่าใช้จ่ายร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย และให้เร่งการจัดประชุมไตรภาคีเพื่อหารือแนวแทางเชื่อมโยงทางรถไฟ ในเดือน ม.ค. 2565
พร้อมกับเห็นชอบการพัฒนาย่านขนถ่ายสินค้าฝั่งไทย-ลาว เพื่อเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อในการขนสินค้าข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว
ที่ประชุมคณะกรรมการการเชื่อมโยงทางรถไฟฯ ยังได้เห็นชอบในหลักการการกำกับติดตามเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.กรมทางหลวงชนบทเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ตรวจปล่อยสินค้า
2.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับการลงนามในพิธีสารต่างๆ ระหว่างไทย-จีน การอบรมพัฒนาบุคลากร การเตรียมพื้นที่ด่าน สิ่งอำนวยความสะดวกในการกักกันและตรวจปล่อยสินค้าเกษตรทั้งขาเข้าและออก
3.กรมศุลกากร ในส่วนโครงการระบบตรวจสอบ Mobile X-Ray
4.กระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลการพัฒนาในฝั่งลาวเพื่อการแลกเปลี่ยนและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับไทย
5.กระทรวงอุตสาหกรรม ในส่วนของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีและศูนย์กระจายสินค้าทางรางเพื่อรองรับรถไฟจากลาวและจีน
นอกจากนี้ ยังได้มีการเห็นชอบในหลักการจัดทำความตกลง (Framework Agreement) การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย-ลาวและจีน โดยมีสาระสำคัญในการกำหนดสิทธิการเดินทางรถไฟระหว่าง 3 ประเทศ เพื่อให้เกิดการเดินรถไฟอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม ยังได้รายงานให้ทราบถึงสถานะการค้าและการขนส่งภายหลังรถไฟลาว-จีน เปิดให้บริการ เปรียบเทียบสถิติการส่งออกสินค้าผ่านชายแดนหนองคาย ในช่วงเดือน ธ.ค. 2563 กับช่วง ธ.ค. 2564 พบว่า
ปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 116,552 ตัน เป็น 304,119 ตัน ขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้น 4.64 พันล้านบาท เป็น 6.91 พันล้านบาท มูลค่านำเข้าส่งออกที่ด่านหนองคายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีการเพิ่มรถไฟจาก 4 ขบวนเป็น 14 ขบวนต่อวัน และการขนส่งขบวนละ 12 แคร่ เป็น 25 แคร่ ซึ่งสามารถมีศักยภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่า แต่ปริมาณการขนส่งยังไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19