น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 มกราคม 2565 อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดให้กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ
“กำหนดให้กิจการให้บริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือ ตำราเรียนที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ โดยให้เป็นไปในเกณฑ์เดียวกับกับกิจการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือ ตำราเรียนที่อยู่ในรูปของกระดาษ”
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกิจการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือ ตำราเรียนทั้งในรูปแบบกระดาษและบริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แต่มีข้อแตกต่าง คือ
1.ผู้ให้บริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ฯ ไม่มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำได้
2.ดังนั้น การให้สิทธิแก่ผู้ให้บริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ฯ จึงเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการเสียภาษีระหว่างผู้ประกอบการ ซึ่งประกอบธุรกิจเดียวกันแต่ช่องทางแตกต่างกัน
การเป็นธุรกิจที่สามารถจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ มีข้อดี ดังนี้
1.ทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น
2.มีโอกาสในการนำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการประกอบธุรกิจมาขอคืนภาษีซื้อได้
3.ช่วยลดต้นทุนในการประกอบการลง
4.ธุรกิจมีความน่าเชื่อมากขึ้น
5.เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจเนื่องจากสามารถออกใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อได้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้พิจารณาการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับแล้ว ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ เนื่องจากเป็นการกำหนดให้ผู้ให้บริการ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว มีสิทธิขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ไม่ใช่อัตราการลดภาษีหรือยกเว้นภาษี จึงไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐแต่อย่างใด