Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

กรมการแพทย์แนะผู้ป่วย “ภาวะหัวใจล้มเหลว” ปรับพฤติกรรม ดูแลตนเอง ควบคุมปัจจัยเสี่ยง ป้องกันไม่ให้อาการกำเริบมากขึ้น

การดูแลสุขภาพหัวใจของตนเองและคนข้าง ๆ เป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการดูแลหัวใจให้แข็งแรง เพราะหัวใจเป็นอวัยวะในทรวงอก อยู่ระหว่างปอดทั้ง 2 ข้าง ทำหน้าที่คอยสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากการทำงานของหัวใจผิดปกติ จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่ออวัยวะทั้งหมดของร่างกายได้ค่ะ

มีค่า นิวส์ ทราบจากนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงความผิดปกติของหัวใจอย่าง “ภาวะหัวใจล้มเหลว” หรือ ที่เรียกว่า Heart Failure คือ ภาวะที่หัวใจอ่อนแรง ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างปกติ เนื่องจากหัวใจมีการบีบตัวหรือคลายตัวที่ผิดปกติ บางครั้งหัวใจมีขนาดโต หรือ หนากว่าปกติ

สาเหตุที่ทำให้ภาวะหัวใจล้มเหลว เกิดจาก

1.โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

2.โรคความดันโลหิตสูง

3.โรคลิ้นหัวใจรั่ว หรือ ลิ้นหัวใจตีบ

4.โรคกล้ามเนื้อหัวใจพิการ หรือ บกพร่อง

5.โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและการติดเชื้อของกล้ามเนื้อหัวใจ หรือ ลิ้นหัวใจ

6.โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

สาเหตุอื่น ๆ เช่น

1.กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจากสารพิษต่าง ๆ เช่น

– การดื่มสุรา หรือ ยาเสพติด

– พันธุกรรม

– โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

– โรคต่อมไร้ท่อ เป็นต้น

นอกจากนี้  สาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะหัวใจล้มเหลวกำเริบมากยิ่งขึ้น เกิดจาก

1.การรับประทานอาหารรสเค็ม หรือ อาหารที่มีโซเดียมสูง

2.การดื่มน้ำมากเกินไป (มากกว่าที่ปัสสาวะออกจากร่างกาย) 

3.การรับประทานยาที่ไม่สม่ำเสมอ

4.ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

5.ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

6.การรับประทานยากลุ่ม NSAIDS

7.ภาวะอื่น ๆ เช่น

– ไทรอยด์เป็นพิษ

– การติดเชื้อในร่างกาย

– ภาวะซีด หรือ เลือดจาง

ด้านนายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวถึงอาการของผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว ดังนี้

1.อาการเหนื่อยง่าย หรือ หอบ

2.นอนราบไม่ได้ ต้องหนุนหมอนเพิ่ม หรือ นั่งหลับ

3.สะดุ้งตื่นมาตอนกลางคืน เพราะอึดอัดหายใจลำบาก

4.บวมที่ข้อเท้าและหน้าแข้ง

5.น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 2 กิโลกรัม ใน 2 วัน

6.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

7.คลื่นไส้ อาเจียน

8.เบื่ออาหาร ท้องอืด

ดังนั้น ผู้ป่วยควรดูแลและควบคุมปัจจัยเสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะหัวใจล้มเหลวกำเริบมากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง ดังนี้

1.ชั่งน้ำหนักทุกวัน ก่อนทานอาหารเช้าทุกวัน หรือ ภายหลังเข้าห้องน้ำขับถ่ายแล้วในช่วงเช้า

2.จดบันทึกน้ำหนักเพื่อช่วยประเมินตนเอง

3.ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ตามแผนการรักษาของแพทย์

4.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม  จำกัดปริมาณโซเดียมที่รับประทานต่อวัน

5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างพอดี อาจเริ่มจากการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินทางราบ หากหอบเหนื่อยควรหยุดพักทันที

6.งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ทุกประเภท เพราะสารพิษในบุหรี่จะส่งผลให้เส้นเลือดหัวใจตีบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้การบีบตัวของหัวใจลดลง

7.รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ตามคำแนะนำของแพทย์

8.มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

9.ควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี ในกรณีไม่มีข้อห้าม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญ ผู้ป่วยควรสังเกตอาการตนเอง หากพบว่า มีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ป้องกันความรุนแรงของโรค และนำไปสู่แนวทางการรักษาที่ถูกวิธี เพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย

ที่มา : กรมการแพทย์ https://www.facebook.com/profile.php?id=100069182200543

Exit mobile version