มีค่า นิวส์ พาไปเยี่ยมชม “พดด้วงฟาร์ม” ต.พรุไทย อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ใช้พื้นที่ขนาดพื้นที่เพาะเลี้ยงด้วงสาคูส่งโรงงานแปรรูปส่งขายต่างประเทศ และขายผ่านออนไลน์ทั่วประเทศ สร้างรายได้งามยุคโควิด เชื่อว่าหลายคนคงจะอยากรู้ว่า เจ้าของฟาร์มมีแนวคิดอะไร จึงเพาะเลี้ยงด้วงสาคูส่งขายแบบนี้
คุณชนัญธิดา ดิษยาอัครนนท์ อายุ 37 ปี เจ้าของพดด้วงฟาร์ม เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ตัวเธอเคยทำร้านกาแฟ แต่โควิด-19 แพร่ระบาด จึงคิดหาอาชีพใหม่ ที่ทำอยู่กับบ้านได้ ซึ่งที่บ้านมีพื้นที่ จึงได้คิดที่จะเลี้ยงตัวด้วง เพาะเลี้ยงง่าย ใช้พื้นที่ไม่มาก และเป็นที่ต้องการของตลาด
ส่วนวิธีการเลี้ยงก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากใช้ต้นสาคูที่บดละเอียดมาใส่ลงในกะละมังพลาสติก แล้วใช้หัวอาหารใส่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วโรยด้วยขุยมะพร้าวหันเป็นชิ้นทับอีกครั้ง จากนั้นก็ค่อยนำแมลงหวังพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ จำนวน 3 คู่ลงไปเลี้ยงในกะละมัง ให้วางไข่
ซึ่งจะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 30-45 วัน ก็จะได้ตัวด้วงสาคูที่มีขนาดใหญ่ประมาณหัวแม่มือ พร้อมที่จะส่งขาย โดยก่อนที่จะส่งขาย ต้องนำด้วงสาคูมาพักไว้ในกะละมังที่มีแต่ต้นสาคูที่บดละเอียดให้ตัวด้วงได้กินแต่ต้นสาคูบด จะทำให้ตัวด้วงมีรสชาติมันหวานและหอม เมื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร
ตอนนี้ในแต่ละเดือน จะสามารถผลิตตัวด้วงสาคูได้ประมาณ 50-100 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าทั้งลูกค้าโรงงานแปรรูปส่งขายต่างประเทศ และลูกค้าทั่วไป ที่นิยมรับประทานเพราะในตัวด้วงสาคูจะให้โปรตีนสูง และก่อนที่จะส่งให้ลูกค้าจะต้องนำด้วงสาคูมาต้มให้สุก แล้วแพ็คด้วยระบบสุญญากาศแล้วนำไปแช่แข็ง เตรียมส่งให้ลูกค้า
สำหรับลูกค้าที่สั่งสินค้า ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร ที่นำไปปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่น เมนูด้วงสาคูผัดน้ำมัน, ผัดกะทิ, ทอด หรือ คั่วเกลือ ก็จะอร่อยมาก ส่วนราคาขายปลีก จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท และราคาขายส่งจะอยู่ที่ 180 ต่อกิโลกรัม ใครที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เฟซบุ๊ก ชนัญธิดา ดิษยาอัครนนท์ หรือ โทร 063-916-9399