นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 1 มีนาคม 2565 เห็นชอบร่างข้อตกลงด้านแรงงาน ระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จำนวน 2 ฉบับ มีค่า นิวส์ สรุปมาให้ ได้แก่
1. ร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงาน
2. ร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานบ้าน
พร้อมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามข้อตกลงในนามของฝ่ายไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ทั้งนี้ ร่างข้อตกลงแรงงานทั้ง 2 ฉบับ มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดหาแรงงานไทย (แรงงานทั่วไป/แรงงานที่ทำงานบ้าน) ไปทำงานในซาอุดีอาระเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจริยธรรม และมีประสิทธิภาพ คุ้มครองสิทธิของนายจ้างและลูกจ้าง โดยทั้งสองฝ่าย จะร่วมมือกันดำเนินการนำไปสู่ระบบที่เป็นที่ยอมรับ ทั้งการจัดหาแรงงาน การจัดส่งแรงงานไปทำงาน และการส่งแรงงานกลับประเทศ
เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดหาแรงงานเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีจริยธรรม ซึ่งแรงงานและนายจ้างจะมีสิทธิรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และสามารถดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับสำนักงานจัดหางาน บริษัทจัดหางาน หรือตัวแทนจัดหางาน ในกรณีละเมิดกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดที่ใช้บังคับ
กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุคุณสมบัติและประเภทของงานที่เสนอให้มีการจัดหาแรงงาน รวมทั้งค่าจ้าง ผลประโยชน์ และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และสร้างความมั่นใจว่าสวัสดิการและสิทธิของแรงงานไทย ที่ได้รับการว่าจ้างทำงานในซาอุดีอาระเบียได้รับการคุ้มครอง
ขณะที่กระทรวงแรงงาน จะสร้างความมั่นใจว่าแรงงานที่จัดหา ตรงตามเงื่อนไขทางด้านสุขภาพ และปราศจากโรคติดต่อ เป็นผู้ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย และผ่านการฝึกอบรมทักษะที่เหมาะสม รวมทั้งจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่แรงงานในการเดินทาง ไปยังซาอุดีอาระเบียและการจัดส่งแรงงานกลับคืนสู่ไทย
รวมทั้งสนับสนุนให้แรงงานปฏิบัติตามกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะทบทวน ประเมินผล และติดตามการดำเนินการตามข้อตกลงนี้เป็นระยะด้วย
ร่างข้อตกลงฯ ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ เมื่อมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรในระยะเวลา 5 ปี และจะต่ออายุได้อีก 5 ปี โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ภาคีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแสดงเจตจำนงระงับหรือสิ้นสุดข้อตกลง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างข้อตกลง เป็นผลสำเร็จจากการที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำคณะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อ 25-26 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา ต่อมานายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้หารือทวิภาคีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม ซาอุดีอาระเบีย เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือด้านแรงงาน
1. ร่างข้อตกลงที่ใช้กับแรงงานทั่วไป เช่น สาขาอาชีพอุตสาหกรรมก่อสร้าง สุขภาพและบริการ
2. ร่างข้อตกลงที่ใช้กับแรงงานที่ทำงานบ้าน เช่น แม่บ้าน คนขับรถ พี่เลี้ยงเด็ก คนสวน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าคณะผู้เดินทางจากซาอุดีอาระเบียจะเดินทางมาไทย ในช่วงวันที่ 5-7 มี.ค. 65 ซึ่งจะมีการลงนามข้อตกลงดังกล่าวในวันที่ 7 มี.ค. 65 นี้ ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ที่เข้มแข็งในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-ซาอุฯ และขยายตลาดแรงงานไทยในตะวันออกกลางด้วย