นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 มีนาคม 2565 อนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.ฎ. ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ปรับปรุงมาตรการภาษีจากมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนกิจการเงินร่วมลงทุนเดิม ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัฐฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 597) พ.ศ. 2559 พระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ 636) พ.ศ. 2560
สำหรับมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการระดมทุนในวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนใน Startup ไทย ที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งการลงทุนโดยตรง และการลงทุนโดยอ้อมผ่าน Venture Capital โดยให้มีผลตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเษกษา – 30 มิถุนายน 2575
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นการระดมทุน ให้ Startup โดยเปิดให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาลงทุน ไม่ว่าเป็นการลงทุนโดยตรงหรือการลงทุนผ่านกิจการเงินร่วมลงทุน หรือ Venture Capital (VC) ซึ่งได้แก่ บริษัทที่ประกอบกิจการเงินร่วมลงทุน หรือ Corporate Venture Capital (CVC) และผู้ถือหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมทุน Private Equity Trust (PE Trust) ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อจะเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของ COVID –19
ร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว มีสาระสำคัญหลายข้อ ซึ่งเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี มีค่า นิวส์ สรุปได้ดังนี้
1. การลงทุนโดยตรงของบุคคล ธรรมดา หรือบริษัทห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลที่จดทะเบียนในไทย และต่างประเทศ (มาตรการเดิม ไม่ได้กำหนดไว้)
– บุคคลธรรมดา หรือบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนในไทยและต่างประเทศ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายได้จากการโอนหุ้นของ Startup
ทั้งนี้ เฉพาะหุ้นที่ถือครองมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 24 เดือนก่อนการโอนหุ้น และเป็น Startup ในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามที่รัฐสนับสนุน ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มและก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งหมดในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ของ 2 รอบระยะเวลาบัญชี
2. การลงทุนผ่าน VC (คือ CVC และ PE Trust)
– CVC ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายได้จากการ โอนหุ้นของ Startup ที่ถือครองมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือนก่อนการโอนหุ้น โดย Startup ต้องประกอบ อุตสาหกรรมเป้าหมายตามที่รัฐ สนับสนุน ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มและก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งหมดในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ของ 2 รอบระยะเวลาบัญชี และผู้ลงทุนใน CVC ได้รับยกเว้น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายได้จากการโอนหุ้นของ CVC
– PE Trust ไม่อยู่ในบังคับต้อง เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และผู้ลงทุนใน PE Trust ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ รายได้จากการโอนหน่วยทรัสต์ ของ PE Trust
ทั้งนี้ คาดว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทำให้ Startup ไทยสามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้เพิ่มขึ้น VC ไทยสามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ Startup ไทยสามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้ง่ายขึ้น และเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น คาดว่าภายในปี 2569 ประเทศไทยมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 3.2 แสนล้านบาท GDP เพิ่มขึ้น 7.9 แสนล้านบาท จำนวน Startup เพิ่มขึ้น 5,000 – 10,000 แห่ง และการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 – 400,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งสนับสนุน Start up ไทย ซึ่งมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการดึงดูดให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น ด้วยการระดมทุนจากทั่วโลก เพื่อให้ Start up ไทยป็นส่วนหนึ่งที่จะเพิ่ม GDP ให้กับประเทศไทยได้อย่างจริงจัง และเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตด้วย