กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ไฟเบอร์ รวมถึงกรดอะมิโนจำเป็นต่าง ๆ จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่จะมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง มีค่า นิวส์ สรุปมาให้อ่านกันครับ
นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การดูแลสุขภาพแบบภูมิปัญญาไทยด้วยการนำกล้วยมาใช้ในการดูแลสุขภาพเป็นวิถีชีวิตที่มีมาตั้งแต่เกิดจนชรา อีกทั้งกล้วยยังมีประโยชน์เกือบทุกส่วน สามารถนำมาใช้ 4 ด้านในการดูแลสุขภาพ ตามหลักการแพทย์แผนไทยได้ ดังนี้
- กล้วยกับการส่งเสริมสุขภาพ
- เบต้าแคโรทีนในกล้วย ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผิวจะเนียนนุ่ม และความเสื่อมของเซลล์
- เปลือกกล้วยช่วยแก้ปัญหาข้อศอกด้าน เนื่องจากเปลือกกล้วยมีสารลูทีน (Lutein) วิตามิน A และ E จะช่วยผลัดเซลล์ผิว และช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื้น
- กล้วยกับการป้องกันโรค
- สารทริปโตเฟน (Tryptophan) ในกล้วย ซึ่งเป็นสารตั้งต้นฮอร์โมนเซโรโทนิน ที่ช่วยให้เกิดความสุขและอารมณ์ดี การกินกล้วยจึงช่วยปรับสมดุลร่างกาย คลายความเครียด นอกจากนี้กากใยของกล้วยช่วยทำให้ขับถ่ายง่าย
- กล้วยกับการรักษาโรค
- กล้วยน้ำว้าดิบหรือห่าม ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เนื่องจากสารแทนนินในกล้วยน้ำว้าดิบหรือห่าม มีสรรพคุณช่วยลดการหดเกร็งและลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้
- กล้วยน้ำว้าสุก ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เนื่องจากกล้วยน้ำว้าสุกอุดมไปด้วยกากใยอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำหงานของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ จึงสามารถช่วยระบายท้องได้
- กล้วยกับการฟื้นฟูสุขภาพ
- หัวปลี มีสารอาหารที่สำคัญได้แก่ แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงโลหิตในคุณแม่หลังคลอด และปลีกล้วยมีสารซาโปนิน (Saponins) และแทนนิน (Tannins) ที่อาจช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในเลือด กระตุ้นต่อมน้ำนมให้มีการสร้างน้ำนมของคุณแม่หลังคลอด
ที่มา: กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก