ช่วงวันหยุดยาวในเดือนกรกฎาคมแบบนี้ ผู้คนต่างพากันออกต่างจังหวัด ทั้งกลับบ้าน และไปเที่ยว ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปตามจังหวัดต่าง ๆ อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะว่ามีสถานที่ท่องเที่ยว และแลนด์มาร์กจำนวนมาก ที่พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยว มีค่า นิวส์ เลยเอาข่าวสารมาฝาก
โดยนางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุราษฎร์ธานี ให้ข้อมูลการคาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยว วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13 ก.ค. 2565 ถึง 17 ก.ค. 2565 ในพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยคาดว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 50.94 (เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 49.00%) วันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยว 3.89 วัน และผู้เยี่ยมเยือนเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งหมด 74,182 คน/ครั้ง แบ่งเป็นชาวไทย 46,429 คน/ครั้ง ชาวต่างประเทศ 27,753 คน/ครั้ง คาดมีรายได้เข้าพื้นที่ทั้งหมด 833.18 ล้านบาท จากชาวไทย 330.16 ล้านบาท และ ชาวต่างประเทศ 503.02 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อสถานการณ์ท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม หรือสินค้าท่องเที่ยวยังคงเป็นสินค้าเดิม แต่ยังคงได้รับความนิยมหรืออยู่ในกระแสนิยม เช่น เขื่อนรัชชประภา ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด อุทยานธรรมเขานาในหลวง อุทยานแห่งชาติเขาสก ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ เป็นต้น
- กิจกรรมต่าง ๆ ทางธรรมชาติ และความบันเทิง ในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า ที่ยังคงเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยว ยังอยู่ในกระแสนิยมของนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Y และวัยทำงาน
- มีการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบิน เส้นทาง ไป-กลับ ระหว่างกรุงเทพ-สมุย วันละ 19-24 เที่ยวบิน ขณะที่ สนามบินนานาชาติสุราษฎร์ธานี มีเที่ยวบินเปิดบริการเฉลี่ยวันละ 8-12 เที่ยวบิน (ขาเข้า)
- มีการเสริมเที่ยวเรือโดยสารเฟอร์รี่พิเศษข้ามฟาก และเรือโดยสารที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ทุกเส้นทาง เพิ่มความสะดวกในการเดินทางเข้าถึงพื้นที่
- นโยบายของภาครัฐ ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว ที่มีการผ่อนคลายด้านสาธารณสุข เช่น การขยายสิทธิ์ห้องพัก จำนวน 1.5 ล้านสิทธิ์ ของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 คาดว่าจะส่งผลให้วันหยุดที่ถึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้สิทธิ์ในพื้นที่เพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่นิยมขับรถท่องเที่ยว ตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวน้อยลง
- นักท่องเที่ยวมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนาน
- ปัจจัยภายนอกอื่น ๆ เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เรือโดยสารเฟอร์รี่ข้ามฟาก สำหรับผู้โดยสารและค่าระวางรถลงเรือประเภทต่าง ๆ มีการปรับอัตราค่าโดยสาร เส้นทาง ไป/กลับ ดอนสัก-เกาะสมุย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและแนวโน้มราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มสูงขึ้น
ที่มา: ททท. สำนักงานสุราษฎร์ฯ