กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำ โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้มีประกาศฉบับที่ 28/2565 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2565 แจ้งว่า ช่วงวันที่ 11 – 12 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณเหนือพื้นที่แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มมากขึ้น คาดการณ์ช่วงวันที่ 13 – 14 สิงหาคม 2565 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีในอัตรา 9,000 – 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ด้านท้ายเขื่อนมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำโขงตั้งแต่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 1.0 – 2.0 เมตร อย่างฉับพลัน ในช่วงวันที่ 14 – 18 สิงหาคม 2565
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 7 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังผลกระทบจากน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันที่ 14 – 18 สิงหาคม 2565 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามระดับน้ำในแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์สถานการณ์ในแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมบริเวณแม่น้ำโขง รวมถึงผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวให้ติดตามสถานการณ์น้ำและเฝ้าระวังผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้จังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบจากสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดย เพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM