นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวเตือนนายจ้างแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนล่าช้า ไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทำให้ข้อมูลผู้ประกันตน ซึ่งเป็นข้อมูลหลักในระบบฐานทะเบียนที่ใช้ปฏิบัติงาน ไม่ถูกต้องเป็นปัจจุบัน
ส่งผลกระทบให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนล่าช้า หรือได้รับประโยชน์ทดแทนเกินสิทธิ สำนักงานประกันสังคม จ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลเกินจริง สำนักงานประกันสังคมได้มีแนวทางมาตรการเข้มงวดกับนายจ้าง โดยออกหนังสือเชิญพบเพื่อชี้แจง ให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ หากพบนายจ้างมีเจตนายังหลีกเลี่ยง จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จะมีโทษ ดังนี้
1.จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ
2.ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ
3.ทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง กรณีนายจ้างที่มีลูกจ้างในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03) โดยมีเงื่อนไช ประกอบด้วย
1.นายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นแบบได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่
2.นายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นแบบขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา ที่สถานประกอบการตั้งอยู่
อย่างไรก็ตาม นายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงานให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09) พร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน
กรณีที่ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน (สปส.6-10) ภายในวันที่ 15 นับถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง
นายจ้างสามารถทำธุรกรรม งานทะเบียนผู้ประกันตนผ่านระบบ e-service ได้ที่ www.sso.go.th สอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด/สาขา หรือสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง