นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 13 กันยายน 2565 อนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) …. ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน รวมถึงน้ำมันเตา ที่โรงไฟฟ้าใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และขายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
***กำหนดให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตรา ศูนย์ บาท/ลิตร
ตั้งแต่ 16 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2566
เพื่อควบคุมไม่ให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น จนกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ ความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ และการดำเนินชีวิตของประชาชน
กระทรวงการคลัง ประเมินว่า จะก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีทั้งสิ้นรวม 1,436 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.สรรพสามิตน้ำมันดีเซล (บี0) ประมาณ 1,400 ล้านบาท
2.สรรพสามิตน้ำมันเตา ประมาณ 36 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง ยืนยันว่า จะไม่กระทบต่อเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิต เนื่องจากรายได้ที่สูญเสียดังกล่าวไม่ได้ถูกนำไปรวมในเป้าหมายตั้งแต่ต้น ในทางกลับกันไฟฟ้าเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิต และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน
ซึ่งการจัดเก็บภาษีอัตราศูนย์สำหรับน้ำมันดีเซล (บี0) และ น้ำมันเตา ที่นำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในครั้งนี้ จะช่วยให้ต้นทุนในการผลิตกระแสไฟฟ้าไม่สูงมากเกินสถานการณ์ ส่งผลต้นทุนการผลิตในทุกอุตสาหกรรมก็จะไม่เพิ่มสูงมากจนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ