เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อากาศก็จะเริ่มเย็นลงซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพผู้สูงอายุ ด้วยร่างกายที่เสื่อมถอยจึงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงกับโรคหน้าหนาว กรมการแพทย์ขอแนะนำ 7 วิธี สำหรับผู้สูงอายุที่จะดูแลตนเองในช่วงที่อากาศมีอุณหภูมิลดต่ำลง โดยการสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด รับประทานยาประจำตัวตามแพทย์สั่งและสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวอุณหภูมิก็จะลดลงผู้สูงอายุควรดูแลสุขภาพของตนเองเป็นพิเศษ มีหลายโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบหรือติดเชื้อ ภาวะผิวหนังแห้ง เช่น ผิวหนังอักเสบและคัน เนื่องจากผู้สูงอายุมีไขมันใต้ผิวหนังน้อยและต่อมไขมันทำงานลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นได้ โรคระบบไหลเวียนโลหิต เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคความดันโลหิตสูง ภาวะอุณหภูมิของร่างกายลดลงผิดปกติ ประสาทรับรู้อากาศลดลง ร่างกายไม่ตอบสนองด้วยการหนาวสั่น โรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อ ผู้สูงอายุที่มีอาการปวดกระดูกและข้อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่ออากาศเย็นจะกระตุ้นให้ปวดมากขึ้น เช่น โรคเกาต์ เป็นต้น
นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในช่วงฤดูหนาวมี 7 วิธี คือ
- ดูแลร่างกายให้อบอุ่นสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ
- ฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ที่มาโรคหน้าหนาว
- รับประทานยารักษาโรคประจำตัวตามที่แพทย์สั่ง หากมีความผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที
- หลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้านหรือไปในสถานที่ชุมชน
โรคต่าง ๆ ที่มากับหน้าหนาวอาจสร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้สูงอายุ การดูแลและเข้าใจธรรมชาติของผู้สูงอายุ ร่วมกับการเฝ้าระวังและการป้องกันจึงเป็นการส่งเสริมสุขภาพให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมีความสุข