วันที่ 25 ธันวาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงการจ่ายเงินโครงการประกันรายได้ข้าว สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 4 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 11
สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 17-23 ธ.ค.2565 ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 13,900.55 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 13,392.57 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 10,889.02 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 9,638.57 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 12,395.70 บาท
สำหรับการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้ กับ ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง งวดที่ 11 ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 1,099.45 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 15,392.30 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 607.43 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 9,718.88 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ชดเชยตันละ 110.98 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 2,774.50 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 361.43 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 10,842.90 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ไม่ได้รับเงินชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
ทั้งนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วันทำการ หรือ ภายในวันที่ 28 ธ.ค. 2565 โดยมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 26,318 ครัวเรือน
“สำหรับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร 5 ตัว ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แม้จะเป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถือว่าขณะนี้ได้กลายเป็นนโยบายรัฐบาลไปแล้ว ทำมาต่อเนื่อง 4 ปี
หลังจากรัฐบาลชุดนี้ต้องรอรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ในส่วนของประชาธิปัตย์ประกันรายได้เกษตรกร จะเป็นนโยบายสำคัญที่เราต้องขับเคลื่อนต่อ ในฐานะพรรคการเมืองจะเดินหน้าต่อไป และจะมีประกันรายได้ส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาด้วย เมื่อถึงเวลาจะเรียนให้ทราบว่า จะมีประกันรายได้ส่วนไหนอีกบ้าง ที่จะเพิ่มเติมในส่วนนโยบายของพรรค” นายจุรินทร์ ระบุ