นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวถึงกรณีมีการตั้งคำถามถึงการบริหารจัดการงบประมาณด้านสาธารณสุขของภาครัฐ หลังมีการจัดกิจกรรม One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ระดมทุนจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้แก่ โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว
นพ.ปราโมทย์ ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขไทย และสปป.ลาว มีการลงนามว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข ตั้งแต่ปี 2559 ใน 14 ประเด็น เช่น
1.การป้องกันควบคุมโรค
2.การเฝ้าระวังโรคติดต่อ
3.การพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการ
4.ระบบบริการสุขภาพ
5.ศักยภาพของบุคลากร เป็นต้น
มีการจับคู่จังหวัดชายแดนของไทย กับ สปป.ลาว โดยจังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดคู่ขนานกับแขวงคำม่วน ในปีงบประมาณ 2565 มีความร่วมมือดำเนินงานสาธารณสุขชายแดนหลาย เรื่อง ทั้งการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคติดต่อ การรักษาพยาบาลและการส่งต่อผู้ป่วย ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร
กระทรวงสาธารณสุข จึงจัดสรรงบประมาณให้กับสถานบริการในจังหวัดนครพนมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขง (R8- Medical Hub) และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประตูสู่อินโดจีน
นพ.ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2565 จังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรงบลงทุน เพื่อพัฒนาศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ จำนวน 137 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2566 อีก 138 ล้านบาท เฉพาะโรงพยาบาลนครพนม ปีงบประมาณ 2565 ได้รับการจัดสรรงบลงทุนจำนวน 4,730,000 บาท เพื่อใช้พัฒนาหลายด้าน อาทิ
1.พัฒนาเตียงผ่าตัดด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์และกระดูกสันหลังชนิดเอกซเรย์ผ่านได้
2.กล้องส่องตรวจทางเดินหายใจ ชนิดโค้งงอได้ ชนิดวิดีทัศน์ พร้อมอุปกรณ์แสดงผลที่จอภาพ เพื่อช่วยในการตรวจทางเดินหายใจและใส่ท่อช่วยหายใจ
3.เตียงผู้ป่วยสำหรับไอซียูปรับด้วยไฟฟ้าชนิด 4 มอเตอร์
4.งบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.83 ล้านบาท
ส่วนปีงบประมาณ 2566 ได้รับการจัดสรรงบลงทุน 1,500,000 บาท นำมาจัดสรรหลายด้าน เช่น
1.เครื่องตรวจกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟฟ้า (EMG) และงบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.3 ล้านบาท
2.ยังมีครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่อยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจากรายการงบลงทุนโรงพยาบาลอีกหลายรายการ
3.สถานการณ์เงินบำรุงของโรงพยาบาลในปีงบประมาณ 2565 มีความมั่นคงทางการเงินในระดับปกติ เงินบำรุงคงเหลือหลังหักหนี้แล้วอยู่ที่ราว 11.28 ล้านบาท
ทั้งนี้ โรงพยาบาลนครพนม มีแผนพัฒนาศักยภาพการให้บริการ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ โดย ปี 2566-2567 จะพัฒนาศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือดชายแดน ศูนย์ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก (โดยความร่วมมือของ สถาบันพระบรมราชชนก และมหาวิทยาลัยนครพนม) และแผนกผู้ป่วยในด้านจิตเวชและยาเสพติด
สำหรับการจัดกิจกรรมระดมทุนของบุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ ถือเป็นความตั้งใจดี ที่ต้องการทำความดีช่วยเหลือสังคมผ่านการสนับสนุนให้กับโรงพยาบาล ซึ่งเงินบริจาคส่วนนี้ จะถูกนำมาสมทบกับงบประมาณที่โรงพยาบาลได้รับจัดสรร เพื่อใช้จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ตามความประสงค์ของผู้บริจาคและตามแผนการพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลต่อไป