จากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 เห็นชอบกำหนดคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมายในระยะแรก สำหรับ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 กลุ่ม 4 ภูมิภาค มีค่า นิวส์ จึงพามาทำความรู้จักคำนี้กันค่ะ
ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ เป็นนโยบายที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) เสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ เพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่บริเวณชายแดน รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
กำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ดังนี้
1.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC) ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง เน้นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) และอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร
2.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC) ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย เน้นอุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร
3.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง-ตะวันตก (CWEC) ประกอบ ด้วยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรบุรี และกาญจนบุรี เน้นอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
4.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ประกอบด้วย จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เน้นอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมชีวภาพ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism)
มีมติเห็นชอบการขยายกิจการเป้าหมายและสิทธิประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจากเดิม 72 ประเภทกิจการ ขยายเป็น 89 ประเภทกิจการ โดยมี 17 ประเภทกิจการที่เสนอเพิ่มเติม ดังนี้
1.กิจการปรับปรุงพันธุ์พืชหรือสัตว์ (ที่ไม่เข้าข่ายกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ)
2.กิจการประมงน้ำลึก
3.กิจการผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ
4.กิจการผลิตเชื้อเพลิงหรือแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ (Pharmaceutical Grade) จากผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งเชื้อเพลิงจากเศษวัสดุหรือขยะหรือของเสียที่ได้จากผลผลิตทางการเกษตร
5.กิจการผลิตวัสดุทนไฟหรือฉนวนกันความร้อน (ยกเว้นอิฐมวลเบา อิฐน้ำหนักเบา)
6.กิจการผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะ
7.กิจการผลิตเยื่อกระดาษหรือกระดาษ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในโครงการเดียวกัน
8.กิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากเยื่อกระดาษหรือกระดาษ
9.กิจการผลิตอาหารทางการแพทย์ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
10.กิจการบริการสาธารณสุขด้านแพทย์แผนไทย
11.กิจการศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง
12.กิจการบริการขนส่งผู้ป่วย แพทย์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ (ทางอากาศ ทางบก หรือทางเรือ)
13.กิจการหอประชุมชนาดใหญ่
14.กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าหรือ พลังงานไฟฟ้าและไอน้ำจากขยะ หรือเชื้อเพลิงจากขยะ
15.กิจการผลิตพลังานไฟฟ้า หรือ พลังงานไฟฟ้าและไอน้ำจากพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ เป็นต้น ยกเว้นขยะหรือเชื้อพลิงจากขยะ
16.กิจการบริการแก่ธุรกิจสร้างภาพยนตร์
17.กิจการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
**รู้จักระเบียงเศรษฐกิจพิเศษกันแล้ว ก็แว๊บเข้าไปช้อปออนไลน์ที่ Shopee กับ โปร Low Price เริ่มต้นที่ 9 บาท สินค้ากว่า 20,000 ชิ้น >> คลิกที่นี่