นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 รับทราบแนวทางการดำเนินมาตรภาษีสรรพสามิต เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาดีเซล หลังรัฐบาลดำเนินมาตรการทางภาษีเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2565 โดยปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร **จะสิ้นสุดในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราภาษีกลับสู่ภาวะปกติ
กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานหารือและมีความเห็นร่วมกันว่า การใช้มาตรการทางภาษีเพื่อปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 จะก่อให้เกิดผลผูกพันรัฐบาลในอนาคต ซึ่งคณะรัฐมนตรีที่ปฎิบัติหน้าที่ในช่วงที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ไม่อาจกระทำการอันมีผลต่อการอนุมัติงาน หรือโครงการหรือมีผลต่อการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป
ประกอบกับปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่น ในประเทศลดลงตามไปด้วย ดังนั้น ในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในวิสัยที่กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถดำเนินการได้ เห็นควรให้ใช้มาตรการของกองทุนน้ำมันที่มีฐานะการเงินดีขึ้น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังรายงานภาพรวมความสำเร็จของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายการเงินการคลัง ช่วยรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน และ **ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร เสริมสร้างเสถียรภาพทางเสรษฐกิจมหภาค ลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวน