องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) จัดมหกรรมท่องเที่ยวเกาหลีครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Korea Everywhere พร้อมกันถึง 4 ห้างชั้นนำของกรุงเทพฯ ส่งตรงโปรโมชั่นเด็ด ๆ จากหน่วยงานท่องเที่ยวเมืองต่าง ๆ ของเกาหลี สายการบิน และบริษัททัวร์แบบจัดเต็ม ล็อคคิวกันไว้เลย ระหว่างวันที่ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2566
ขณะนี้ เกาหลีใต้ อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งถือเป็นฤดูที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด ใบไม้ทั่วทั้งเมืองจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีแดง อากาศที่กำลังเย็นสบาย ไม่ร้อน หรือหนาวจนเกินไป ทำให้ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของเกาหลีใต้กลายเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
KTO จึงจัดมหกรรมนี้ขึ้น เพื่อชวนคนไทยปักหมุดแนะนำ 6 สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เหมาะกับการออกเดทสุดโรแมนติกในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะมีที่ไหนบ้าง มาส่องกันเลยค่ะ
1.อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)
ตั้งอยู่ที่เมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด ที่นี่เป็นจุดที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นที่แรก ๆ ของเกาหลี ซึ่งจะเริ่มในช่วงปลายเดือนกันยายน และจะพีคที่สุดในช่วงกลางเดือนตุลาคม ต้นไม้และต้นเมเปิ้ลที่อยู่รอบอุทยานจะเปลี่ยนสีทั่วทั้งภูเขา ทำให้คู่รักชาวเกาหลีสายธรรมชาตินิยมมาท่องเที่ยวปีนเขากันในช่วงนี้
ซึ่งที่นี่ก็มีหลากหลายเส้นทางให้เลือกทั้งยากและง่าย แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่สายแอดเวนเจอร์ ก็ยังชมวิวทิวเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสีสันสดใสได้ด้วยกระเช้าที่จะพาขึ้นไปเกือบถึงยอดเขา ควอนกึมซอง (Gwongeumseong, 권금성) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ รับลมเย็นยอดเขา ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี 360 องศา
2.สวนพฤกษศาสตร์ฮวาดัม (Hwadam Botanic Garden, 화담숲)
สวนรุกขชาติเชิงนิเวศขนาด 65 ไร่ ตั้งอยู่ในเมืองควางจู จังหวัดคยองกีโด อยู่ห่างจากกรุงโซลเพียง 40 นาทีเท่านั้น สวนแห่งนี้ รวบรวมพืชพันธุ์นานาชนิดกว่า 4,300 สายพันธุ์ จัดแบ่งออกเป็น 16 ธีม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของชาวเกาหลี พลาดไม่ได้กับกิจกรรมคล้องกุญแจคู่รักบนสะพานรูปหัวใจ (Bridge of Promise) ก่อนจะขึ้นรถไฟโมโนเรล (Monorail) แคปซูลชมความสวยงามตระการตาของธรรมชาติ โรแมนติกสุด ๆ
3.ชองวาแด (Cheongwadae, 청와대)
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Blue House เป็นอดีตทำเนียบประธานาธิปดีของเกาหลี ตั้งอยู่ในเขตจงโน ใจกลางกรุงโซล สายซีรีส์น่าจะพอคุ้นตากันเนื่องจากที่นี่เป็นโลเคชั่นของซีรีส์หลายเรื่อง อาทิ City Hunter, Vagabond รวมถึง Designated Survivor: 60 Days แต่เดิมที่นี่เป็นสถานที่ที่มีการคุ้มครองแน่นหนาที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
แต่นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา ได้มีการประกาศให้ที่นี่เป็นสวนสาธารณะ ทำให้ชองวาแดกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ของทั้งคนเกาหลีและนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่ไม่เพียงอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ฮวงจุ้ยดีที่สุดในกรุงโซล
ด้านหน้ามีแม่น้ำฮันไหลผ่าน ด้านหลังมีภูเขาบุกฮันซาน ภายในทำเนียบมีสวนเขียวขจี ทัศนียภาพสวยงาม ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงบรรยากาศจะยิ่งงดงามเป็นพิเศษ ด้วยสีสันของต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงตัดสลับกับสีเขียวของต้นสน ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
4.ย่านอิกซอนดง (Ikseondong,익선동)
หมู่บ้านเกาหลีโบราณอายุกว่า 100 ปี ที่กลายเป็นแหล่งรวมคาเฟ่เก๋ ๆ ร้านอาหารชิค ๆ ใจกลางกรุงโซล ที่นี่ยังคงกลิ่นอายความคลาสสิคของบ้านเกาหลี ที่ก่อจากอิฐสีน้ำตาลวางเรียงกันเป็นก้อน กับหลังคาทรงเตี้ย ดัดแปลงให้ดูทันสมัยขึ้นด้วยการติดกระจกใส และเพนท์ผนัง กลายเป็นสเน่ห์ที่มีความมินิมอล แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง
โดยเฉพาะร้านคาเฟ่ลานดอกไม้ (카페 마당공간) คาเฟ่ที่ดังที่สุดในย่าน เป็นร้านที่พลาดไม่ได้หากมาย่านนี้ ร้านตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีตั้งแต่ทางเข้า ภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้หอม ๆ ในเมนูขนมและเครื่องดื่มก็ยังใส่กิมมิคของดอกไม้ด้วย ที่นี่ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ Guardian: The Lonely and Great God ที่กงยูแสดง
5.ถนนฮงแด (Hongdae, 홍대)
แหล่งช้อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวไทยรู้จักและคุ้นเคยกันดี ตั้งอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก เพราะนอกจากจะมีทั้งร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารราคานักศึกษาแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมด้านดนตรีและศิลปะของคนรุ่นใหม่ ผลงานสตรีทอาร์ทบริเวณกำแพงเรียงรายอยู่เป็นระยะ
ตกเย็นก็จะเริ่มมีการแสดงเปิดหมวกทั้งร้องเพลง เล่นดนตรี เต้น รวมถึงการแสดงมายากลให้เลือกชม เป็นถนนอีกเส้นที่มีบรรยากาศโรแมนติกเหมาะกับการเดท ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป ได้นั่งฟังดนตรีเพราะ ๆ พร้อมกุมมือคนรัก เหมือนซีนสวีทในซีรีส์โรแมนติกคงอบอุ่นหัวใจไม่น้อยเลยค่ะ
6.ไฮเกอร์ กราวด์ (HiKR Ground, 하이커 그라운드)
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2565 ที่นี่จะพานักท่องเที่ยวสัมผัสและเข้าถึงวัฒนธรรมเกาหลีแบบล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง XR (Extended Reality) โดยทั้ง 5 ชั้นของไฮเกอร์ กราวด์แบ่งออกเป็นธีมต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเป็นเกาหลีในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะ ซีรีส์
พลาดไม่ได้เลยสำหรับใครที่เป็นสาวก K-pop กับ โซน K-pop Ground บนชั้น 2 ที่นำเอาฉากฮิตใน MV อย่างรถไฟใต้ดิน ร้านซักผ้า และยานอวกาศมาให้ถ่ายกันแบบจุใจ และยังมีสเตจรายการเพลงที่สามารถเลือกกราฟฟิคฉากได้กว่า 100 แบบ แถมยังเลือกเพลงที่อยากเต้นได้ตามใจชอบ คู่รักคู่ไหนเป็นสายเต้นชอบทำคอนเท้นต์ต้องมาเลย
ในเมื่อข้อมูลที่เที่ยวพร้อมแล้ว!! ก็ถึงเวลาของการจองตั๋ว! กิจกรรมดี ๆ แบบนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook KTO Thailand หรือติดต่อ อสท.เกาหลี โทร. 02-611-2731-2