จากเรื่องราวของ หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เปิดเพจ สู้ดิวะ เล่าเรื่องราวอาการป่วยของตัวเอง จนมีชาวเน็ตให้กำลังใจคุณหมอเป็นจำนวนมาก มีค่า นิวส์ จะพามารู้จักคุณหมอกันค่ะ
หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล ปัจจุบันอายุ 29 ปี เกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรียนจบภายในระเวลา 6 ปีตามกำหนด ซึ่งระหว่างเรียน หมอกฤตไท เป็นนักบาสเกตบอลของคณะแพทย์เชียงใหม่ด้วย หลังเรียนจบศึกษาต่อเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัว เป็นเวลาอีก 3 ปี
ตอนที่กำลังเรียนแพทย์เฉพาะทาง หมอกฤตไท ตัดสินใจเริ่มเรียนอีกด้านหนึ่งไปด้วยกัน คือ ระบาดวิทยาคลินิก โดยจะเกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วยด้วยการสร้างผลงานวิจัย ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และสถิติ ซึ่งยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยมากนัก นอกจากนี้ หมอกฤตไท ยังเรียนวิศวกรรมศาสตร์ต่อในระดับปริญญาโทด้านวิทยาการข้อมูล ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อต่อยอดแนวคิดทางธุรกิจ การแก้ปัญหา การจัดการข้อมูลที่สำคัญในโลกอนาคต
หลังจากที่เรียนจบเฉพาะทางตามที่ต้องการแล้ว หมอกฤตไท บรรจุเข้าทำงานเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งหมอหนุ่มไฟแรงที่เต็มไปด้วยศักยภาพ และมีความสามารถในการสอน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีม CE (clinical epidemiology) ร่วมกับอาจารย์เก่ง ๆ หลายคน
ด้านชีวิตส่วนตัว หมอกฤตไท ชอบออกกำลังกายดูแลสุขภาพ ไม่สูบบุหรี่ ทำให้มีสุขภาพที่ค่อนข้างแข็งแรงมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังวางแผนจะซื้อบ้าน และขอแฟนสาวแต่งงานด้วย กระทั่งเขาเริ่มสังเกตอาการไอของตัวเอง จนเมื่อเข้าตรวจกับผู้เชี่ยวชาญ พบว่า กำลังป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ไม่สามารถผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาดได้ โดยเหลือปอดขวาที่แข็งแรงเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
ในเดือนตุลาคม 2565 มะเร็งปอดลุกลามไปสมอง จึงเข้ารับการผ่าตัด รับการตรวจทั้งร่างกาย รับยาเคมีบำบัด รับการฉายแสง หลังจากรับผลข้างเคียงทุกอย่าง ขนร่วงหมดตัว จึงเริ่มตั้งหลักกับตัวเองใหม่ ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน จึงตัดสินใจเปิดเพจ สู้ดิวะ ขึ้นมา เพื่อตั้งใจส่งต่อสิ่งเล็ก ๆ บางอย่าง ให้สังคม และล่าสุดก็ได้เขียนหนังสือสู้ดิวะ ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้อ่านอย่างมาก
ปี 2566 หมอกฤตไท รักษาโรคมะเร็งปอดมาอย่างต่อเนื่อง อาการดีขึ้น ทรงตัว สลับกันไป จนเมื่อเดือนตุลาคม มะเร็งลุกลามไปทั่วร่างกาย ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเก่า ช่วงปลายเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา หมอกฤตไท ได้เข้าพิธีแต่งงานอย่างอบอุ่นกับ คุณพีม แฟนสาว ก่อนที่จะโพสต์แจ้งข่าวร้ายว่า
“ผมคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้วครับ ใครมีอะไรอยากพูดอยากบอกผม เชิญได้เลยครับ ผมน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า จากนั้นไว้เจอกันใหม่ชาติหน้านะครับ ณ ตอนนี้ผมพิมพ์ได้เท่านี้ก็เอาละครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดช่วง 30 ที่ผ่านมาครับ ขอโทษถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจ”
ขอบคุณข้อมูล Sanook
ขอบคุณภาพ Krittai Tanasombatkul