นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และนายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การดำเนินงาน และการบริหารจัดการในการบูรณาการจัดระบบบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ระหว่างสำนักงานประกันสังคมและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม และกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่ต้องขับเคลื่อนการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพให้กับคนไทย “เน้นการป้องกันดีกว่าการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยืนยาว”
ในปี 2566 สำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการผลักดันการขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ผู้ประกันตน โครงการค้นหาความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดในพื้นที่เป้าหมายนำร่อง จำนวน 13 จังหวัด มีผู้ประกันตนเข้าร่วมโครงการ 277,654 คน และในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับวัยทำงานจึงได้กำหนดให้การส่งเสริมสุขภาพเป็นรายการบริการพื้นฐาน
ความร่วมมือดังกล่าว เป็นการลดค่าใช้จ่ายในภาพรวมด้านการสาธารณสุขไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อให้ประชาชนชาวไทยทุกสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานด้วยกันทุกคน ที่สำคัญ คือ ผู้ประกันตนจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติม ที่นอกเหนือจากรายการตรวจพื้นฐาน เช่น การทำงานของไต Cr การตรวจปัสสาวะ Ua เอ็กซเรย์ปอด หาหมอทางไกล telemedicine โดยผ่านระบบบริหารจัดการมาตรฐานการรักษาหนึ่งเดียวที่เป็นเลิศ
ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมุ่งมั่นพัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้ผู้ประกันตนมีสุขภาพที่ดี เน้นหลักการ “ป้องกันดีกว่ารักษา” สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกันตนในการเข้าถึงบริการรักษาที่มีมาตรฐานตลอดมา
สำหรับการดำเนินงานในปี 2567 เป็นต้นไป สำนักงานประกันสังคม พร้อมบูรณาการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจสำคัญในการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการในสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนเรื่องส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพ และสำนักงานประกันกันคมทั่วประเทศ
ซึ่งจะส่งผลทำให้วัยทำงานมีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ยืนยาวและลดภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยบูรณาการงานด้านบริการทางการแพทย์อย่างเหมาะสม เท่าเทียม มีคุณภาพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน