นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยถึงนโยบายสำคัญด้านการพัฒนากำลังคนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. นางสาวศุภมาศ อิสระภักดี เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มีเสถียรภาพอย่างยั่งยืนตามแนวทางที่กำหนดในยุทธศาสตร์ชาติ โดย วศ.อว. มุ่งมั่นส่งเสริมให้บุคลากรของหน่วยงานแสวงหาพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อสร้างความร่วมมือในการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยียกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมของประเทศ
ล่าสุด กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. ได้ส่ง นางสาวพรรัตน์ ไชยมงคล นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ กองเทคโนโลยีชุมชน เข้าร่วมงาน International Exhibition of Inventions in the Middle East ณ ประเทศคูเวต จัดโดย Kuwait Science Club ในพระอุปถัมภ์ของเจ้าผู้ครองรัฐคูเวต โดยนำผลงาน “นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน“ โดยการใช้กระบวนการ Advanced Oxidation Process ในการฆ่าเชื้อโรคทั้งในพื้นผิวและอากาศภายในรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน” ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยและพัฒนาร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ตัวแทนจากประเทศไทยเข้าประกวดและได้รับรางวัลระดับนานาชาติ นับเป็นที่น่ายินดีและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจอย่างยิ่งแก่นักวิทยาศาสตร์และชาว วศ.อว. ที่เรามีนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ทั้งเก่งและมีความรู้ความสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติได้
นายแพทย์รุ่งเรืองฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในงานฯ ดังกล่าว ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตฯ ณ คูเวต ร่วมแสดงความยินดีและพูดคุยกับทีมนวัตกรเกี่ยวกับโอกาสทำความร่วมมือด้านนวัตกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องระหว่างไทยกับคูเวต พร้อมทั้งเชิญชวนทีมนวัตกรเข้าร่วมโครงการ Soft Power ของสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อขยายเศรษฐสัมพันธ์และความร่วมมือทางวิชาการในอนาคต
สำหรับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินฯ ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 Model ได้แก่ Model สำหรับติดตั้งในสถานีรถพยาบาล จะใช้งานเมื่อรถพยาบาลออกไปให้บริการผู้ป่วยและกลับมาทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่ Station และ Portable Model สำหรับติดตั้งในรถพยาบาล กรณีที่ไม่สามารถกลับเข้าทำความสะอาดที่สถานีได้ ตัวเครื่องใช้แบตเตอรี่และสามารถชาร์จไฟจากรถพยาบาลได้ โดยทั้ง 2 model ทำการฆ่าเชื้อแบบอัตโนมัติ สามารถสั่งงานผ่าน Remote หรือ Applications โดยไม่ต้องใช้คนเข้าไปทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
ทั้งนี้ ผลงานดังกล่าวฯ ได้ส่งมอบเพื่อนำร่องใช้งานจริงในรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินใน 3 พื้นที่ ได้แก่ ปทุมธานี แหลมฉบัง ชลบุรี สมุทรปราการ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ป่วย และเป็นการร่วมผลักดันบูรณาการระหว่างองค์กรด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดระบบฆ่าเชื้อที่สามารถติดตั้งในรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินและสามารถขยายการใช้งานนวัตกรรมทั่วประเทศต่อไป