นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังจากได้เดินทางเยือนรัฐอิสราเอล พร้อมกับปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ซึ่งนอกจากประเด็นที่ตั้งใจนำไปหารือร่วมกับรัฐมนตรีจาก 3 กระทรวงแห่งรัฐอิสราเอลได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแล้ว
ล่าสุด ยังมีข่าวดีจากทางการอิสราเอลแจ้งความต้องการรับแรงงานไทยไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มเติมอีกภาคหนึ่ง โดยอยู่ระหว่างการหารือว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมสาขาใด มีความต้องการแรงงานเท่าไหร่ หากได้ข้อสรุปแล้ว ทาง PIBA ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลัก จะแจ้งผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ให้กระทรวงแรงงานทราบ เพื่อเร่งหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ และนำเสนอเข้าครม. เพื่อดำเนินการให้เกิดการลงนาม MOU ระหว่าง 2 ประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะเดินทางเยือนรัฐอิสราเอล มีโอกาสได้พบปะเยี่ยมเยียน สอบถามชีวิตการทำงาน และความเป็นอยู่ของกลุ่มแรงงานไทยที่ทำงานในตลาดค้าขายผลไม้ และร้านขายต้นไม้ดอกไม้ ณ เมืองเฮอซิเลีย ทุกคนยืนยันว่าได้รับการดูแลจากนายจ้างเป็นอย่างดี
ขณะที่เจ้าของตลาดและฟาร์มที่คณะกระทรวงแรงงานเข้าไปเยี่ยมเยียน รัก และให้เกียรติแรงงานไทย ดูแลความปลอดภัยอย่างดี มีห้องนิรภัยที่พร้อมเข้าไปหลบภัยกรณีได้ยินเสียงไซเรน และมีการซักซ้อมการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ แรงงานไทยยังได้รับคำชื่นชมจากรัฐบาลอิสราเอลว่า มีความเชี่ยวชาญในงาน รักครอบครัว เมื่อทำงานครบสัญญาจ้างจะเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด ไม่ลักลอบเป็นแรงงานผิดกฎหมาย จึงทำให้แรงงานไทยเป็นที่ต้องการทั้งจากนายจ้างและรัฐบาลอิสราเอล
สำหรับแรงงานไทย ที่ต้องการเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล สามารถติดตามข่าวสารของกรมการจัดหางาน ผ่านเว็บไซต์ doe.go.th หรือทางเพจ Facebook : กรมการจัดหางาน
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694