พระเขี้ยวแก้ว หรือ พระทาฐธาตุ คือ พระทันตธาตุ ส่วนที่เป็นเขี้ยวของพระโคตมพุทธเจ้า ซึ่งตามลักขณสูตรในพระไตรปิฎกภาษาบาลี ได้กล่าวถึงมหาปุริสลักขณะ 32 ประการ มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึง ลักษณะของพระทาฐะหรือเขี้ยวของบุคคลผู้มีลักษณะแห่งมหาบุรุษว่า “เขี้ยวพระทนต์ทั้งสี่งามบริสุทธิ์” ข้อมูลนี้ จึงทำให้เชื่อกันว่า พระเขี้ยวแก้วมีทั้งหมด 4 องค์ โดยอยู่บนโลกมนุษย์ มีเพียง 2 องค์ ดังนี้
1.พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำขวา ประดิษฐานที่แคว้นกลิงคะ ปัจจุบันถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดศรีทัลฒามัลลิกาวรวิหาร (Sri Dalada Maligawa | The Temple of the Sacred Tooth Relic) ใจกลางเมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา
2.พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนซ้าย ประดิษฐานที่แคว้นคันธาระ ปัจจุบันถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระมหาเจดีย์ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ล่าสุด ปี 2567 ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยเปิดให้ประชาชนสักการะในวันที่ 4 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68 อ่านเพิ่มเติม >> อัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีน ให้ประชาชนชาวไทยสักการะ 4 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68
ทั้งนี้ พระเขี้ยวแก้ว ยังจัดเป็นพระบรมสารีริกธาตุที่ไม่แยกกระจัดกระจาย องค์มีลักษณะแข็งแกร่งรวมกันแน่น พุทธศาสนิกชนจึงมีความศรัทธาเลื่อมใสในองค์ พระเขี้ยวแก้ว เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ยังมีพระเขี้ยวแก้ว อีก 2 องค์ ได้แก่ พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนขวา ท้าวสักกะอัญเชิญไป ประดิษฐาน ณ พระจุฬามณีเจดีย์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และ พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำซ้าย ประดิษฐานในภพพญานาค
ขอบคุณข้อมูล วิกิพิเดีย