อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ดำเนินโครงการ “การควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความมั่นคงด้านอาหารด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับชีวิตวิถีใหม่” (Risk Control in Food Safety and Security Using Appropriate Innovative Technology for New Normal Project) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี 2564 โดยมีหัวใจสำคัญ คือ“การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องเกิดจากการเข้าใจความต้องการ และบริบทของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง”
ตลอดระยะเวลา 3 ปีของการดำเนินโครงการฯ ภายใต้การนำของ รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผู้อำนวยการอุทยานฯ ที่มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนโครงการสู่ความสำเร็จ ได้มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, และประเทศไทย โดย STeP ได้เข้าไปมีส่วนช่วยผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology Dissemination) ที่เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ อย่าง Souphanouvong University และ Nong Lam University เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์และพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน
เริ่มต้นที่ “ชุมชนบ้านผาโอ เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว” ที่นี่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Drying) ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับพื้นที่ รวมถึงผ่านความร่วมมือระหว่างนักวิจัยไทยจากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ผู้เชี่ยวชาญจาก Souphanouvong University ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องอบแห้งติดตั้งแล้ว 2 เครื่อง ทั้งในศูนย์บ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัย และในชุมชน
พื้นที่เป้าหมาย เพื่อช่วยยกระดับการแปรรูปหน่อไม้และเห็ดให้มีคุณภาพและประหยัดพลังงาน ซึ่งนวัตกรรมนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีคุณภาพ แต่ยังสร้างโอกาสในการขยายผลและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนอื่น ๆ ผ่านศูนย์บ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ต่อที่ “เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม” กับกิจกรรมสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดและการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ (Market & Partnership Exploration and Technology Dissemination) เพื่อยกกระดับศักยภาพผู้ประกอบการด้านการผลิตและการแข่งขันการตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งการทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดเวียดนาม วิเคราะห์แนวโน้มตลาดเชิงลึก และปัจจัยที่เอื้อต่อการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจอย่างเข้มแข็ง
ปิดท้ายด้วย “จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย” STeP ได้เข้าไปมีส่วนในการถ่ายทอดนวัตกรรมการหมักดองอาหารแบบ Zero Waste ร่วมกับผู้ผลิตอาหาร บริษัท ดอกบัวฟู๊ดส์ จำกัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการหมักดอง โดยลดปริมาณ และการสูญเสียน้ำดอง เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงช่วยลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอาหารดองของไทย ที่สำคัญแนวคิดการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ ยังได้กลายเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในภูมิภาค
การเดินทางของโครงการฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้น ถูกพัฒนาด้วยความเข้าใจในบริบทของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง ย่อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ จากจุดเริ่มต้นที่ชุมชนเล็ก ๆ ในหลวงพระบาง สู่การขยายผลในเมืองโฮจิมินห์ และการกลับคืนถิ่นสู่จังหวัดเชียงใหม่ ในการนำความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ผสานรวมเข้ากับประสบการณ์อันหลากหลายจากต่างแดน เพื่อกลับมาพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหารในทุกมิติ
ตลอดจนการสร้างรากฐานองค์ความรู้ที่แข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมอาหารของไทย พร้อมเป็นต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่อไป