Bangkok Design Week 2025 ขอชวนทุกคนมา “พร้อมบวก” กับพลังสร้างสรรค์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง พร้อมงานศิลปะและดีไซน์สุดเท่จากหลากหลายพื้นที่ที่จะเปลี่ยนย่านต่าง ๆ ให้มีสีสันและแรงบันดาลใจแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเทศกาลฯ ครั้งนี้ จัดขึ้นวันที่ 8-23 ก.พ. 68 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 7 ย่านหลัก ดังนี้
กลุ่ม Legacy Project คือ แนวคิดการพัฒนาย่านเมือง ที่ผสมผสานพลังสร้างสรรค์จากหลายภาคส่วน เข้ามาช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนโดยใช้ช่วงเวลาของ Bangkok Design Week เป็นโอกาสทดสอบความเป็นไปได้ของโปรเจกต์ นำไปสู่โอกาสต่อยอด ขยายผลให้เกิดขึ้นจริงในกรุงเทพฯ โดยมีทีม Bangkok City Lab (ศูนย์การทดลองเมืองกรุงเทพมหานคร) เป็นหนึ่งในตัวกลางผลักดันให้เกิดขึ้นได้จริง ได้แก่
1.ย่าน เจริญกรุง – ตลาดน้อย : ย่านเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของการผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็น ไทย จีน คริสต์ และมุสลิม สถาปัตยกรรมโบราณ ร้านค้า และอาคารโบราณในย่านนี้ยังคงรักษาเสน่ห์แบบดั้งเดิม ผสมผสานกับศิลปะสตรีทอาร์ตและคาเฟ่ที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ งานออกแบบในเทศกาลฯ ครั้งนี้จะมีความร่วมสมัยที่เข้ามาผสานกับความขลังของประวัติศาสตร์ทำให้เจริญกรุง – ตลาดน้อยเป็นย่านที่สะท้อนถึงพลังของการพัฒนาพื้นที่เมือง ที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และวัฒนธรรมดั้งเดิมในขณะที่เพิ่มสีสันใหม่ ๆ เข้าไป
2.ย่าน +พระนคร : ย่านศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสำคัญ ยังเป็นแหล่งรวมพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ และตลาดท้องถิ่นที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด การจัด Bangkok Design Week ในย่านพระนคร ไม่เพียงแต่รักษาประวัติศาสตร์และศิลปะดั้งเดิม แต่ยังส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางที่ท่องเที่ยวและศิลปะที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองได้อย่างสมดุล
กลุ่ม Creative Cluster คือ กลุ่มย่านที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบและทรัพยากรสำหรับงานสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้คนทำงานร่วมกันและต่อยอดไอเดียใหม่ ๆ จนเกิดเป็นธุรกิจที่เติบโตและประสบความสำเร็จ ทำให้ย่านนี้กลายเป็น “ย่านสร้างสรรค์” ที่เต็มไปด้วยพลังและไอเดียใหม่ ๆ ตลอดเวลา
3.ย่าน +ปากคลองตลาด : ตลาดดอกไม้ที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดทั้งไทยและต่างประเทศ ที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าดอกไม้ที่คนกรุงใช้ในงานบุญ งานพิธี และตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ พร้อมด้วยพ่อค้าแม่ค้ารุ่นเก่าที่ส่งต่อความรู้และฝีมือในงานดอกไม้ ทำให้บรรยากาศของย่านนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและกลิ่นอายความเป็นไทยที่ยังคงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน
4. ย่าน +บางโพ : ย่านที่รู้จักกันดีในด้านงานไม้ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าและโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ งานหัตถกรรม และของตกแต่งจากไม้หลายชนิด เป็นศูนย์รวมช่างฝีมือและผู้เชี่ยวชาญงานไม้ที่สืบทอดความรู้และทักษะจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ย่านนี้เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับผู้ที่รักในงานไม้และต้องการพัฒนาผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์
5.ย่าน +บางลำพู – ข้าวสาร : ย่านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม ผสมผสานกับบรรยากาศสากลที่คึกคักจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ย่านนี้เต็มไปด้วยอาหารอร่อยตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านท้องถิ่น รวมถึงสถานบันเทิงที่ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบไทย ๆ พร้อมกับความสนุกสนานและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้บางลำพู – ข้าวสารเป็นอีกหนึ่งย่านที่พลังสร้างสรรค์ยังคงแผ่กระจายและเชื่อมโยงผู้คนให้ได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่
กลุ่ม Bangkok Vibe คือ กลุ่มย่านที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวของกรุงเทพฯ รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่วัดวาอารามและตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเก่าแก่ ไปจนถึงความมีชีวิตชีวาของย่านเมืองที่ทันสมัย ผสมผสานวิถีดั้งเดิมเข้ากับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่มีสีสันและเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
6.ย่าน +เยาวราช – ทรงวาด : ย่านที่มีความเป็นจีนผสมไทย เต็มไปด้วยร้านค้าและสตรีทฟู้ดที่คึกคัก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดึงดูดผู้คนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทุกค่ำคืนถนนในย่านนี้จะเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางของอาหารรสเลิศที่มาพร้อมกับบรรยากาศวัฒนธรรมจีนแท้ ๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบสัมผัสกลิ่นอายความเป็นเมืองแบบดั้งเดิม
7.ย่าน +หัวลำโพง : จุดเชื่อมต่อการเดินทางสำคัญที่เปรียบเสมือนประตูสู่กรุงเทพฯ ด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลคลาสสิกที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ของเมือง หัวลำโพงเป็นพื้นที่ที่ผู้คนหลากหลายจากทั่วประเทศมารวมตัวกัน ทั้งนักเดินทางและชุมชนดั้งเดิมที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบไทย ๆ ทำให้ย่านนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่บอกเล่าความทรงจำและเรื่องราวของกรุงเทพฯ ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
ขอบคุณข้อมูล รูปภาพ The Districts | BKKDW2025