นิตยสาร Gourmet & Cuisine ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำในแวดวงอาหารระดับประเทศ จัดงานแถลงข่าวการแข่งขันทำอาหารระดับอุดมศึกษา “Gourmet & Cuisine Young Chef 2025” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมเยาวชนที่มีใจรักในการทำอาหารให้ได้พัฒนาทักษะอย่างสร้างสรรค์ ต่อยอดสู่เส้นทางเชฟมืออาชีพ พร้อมขับเคลื่อน Soft Power ของไทยผ่านการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น สู่เวทีโลก ภายใต้แนวคิด “Local to Global – จากรสชาติท้องถิ่นสู่เวทีโลก”
โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ณ ลาน Eden ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน เชฟมืออาชีพ และผู้สนับสนุนหลักเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนเยาวชนรุ่นใหม่สู่เส้นทางเชฟมืออาชีพ
ภายในงานมีการเปิดตัว 10 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เพื่อชิง รางวัลเงินสดและของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท พร้อมด้วย ถ้วยรางวัลเกียรติยศและประกาศนียบัตร

ไฮไลต์ในช่วงกิจกรรมบนเวที ได้แก่ การสาธิตการปรุงอาหารโดยเชฟเบสท์–ณัฐธนนท์ เชฟชื่อดังและเจ้าของร้าน Lucky’s Hungry ก่อนจะปิดท้ายด้วยการสร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษโดย คุณเอมี่ กลิ่นประทุม เซเลบริตีสาวมากความสามารถ ที่มาร่วมโชว์ฝีมือทำอาหารด้วยอุปกรณ์ครัวคุณภาพจากแบรนด์ Tecnoplus

นางสาวภริตา วิริยะรังสฤษฎ์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Gourmet & Cuisine เปิดเผยถึงเป้าหมายของการแข่งขันในปีนี้ว่า แนวคิด “Local to Global – จากรสชาติท้องถิ่นสู่เวทีโลก” สะท้อนความตั้งใจในการเปิดพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาได้ลงมือเรียนรู้ ค้นหา และตีความวัตถุดิบท้องถิ่นผ่านมุมมองใหม่ ๆ ไม่ยึดติดกับสูตรสำเร็จเดิม แต่กล้าที่จะทดลอง ต่อยอด และสร้างสรรค์เมนูที่ร่วมสมัย พร้อมสื่อสารรสชาติความ เป็นไทยสู่สายตาและรสนิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและระดับสากล
การแข่งขันครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเวทีประชันฝีมือ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ที่ช่วยหล่อหลอมความคิด ที่เปิดโอกาสให้เชฟรุ่นใหม่ได้พัฒนาทั้งความคิดสร้างสรรค์ ทักษะ และจิตวิญญาณความเป็นมืออาชีพ เตรียมพร้อมก้าวสู่เส้นทางสายอาชีพในโลกอาหาร และร่วมผลักดันอุตสาหกรรมอาหารไทยให้ก้าวไกล อย่างยั่งยืนบนเวทีโลก

ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่าการแข่งขัน Gourmet & Cuisine Young Chef 2025 เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบายของกระทรวงฯ ในการพัฒนากำลังคนคุณภาพ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารที่มีบทบาททางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระดับโลก เวทีนี้สะท้อนความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมเยาวชนไทยให้มีทักษะพร้อมใช้ และต่อยอดองค์ความรู้สู่นวัตกรรมอาหารที่เชื่อม Soft Power ไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน แนวคิด “Local to Global – จากรสชาติท้องถิ่นสู่เวทีโลก” เปิดโอกาสให้เยาวชนเรียนรู้และเข้าใจอัตลักษณ์อาหารไทยอย่างลึกซึ้ง พร้อมปลูกฝังความคิดสร้างสรรค์สู่ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าในตลาดโลก กระทรวงฯ เชื่อมั่นว่าเวทีนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานการศึกษาและวิชาชีพด้านอาหารของไทยอย่างมีคุณภาพ

นายกฤตนัน สนธิจิรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด กล่าวเสริมถึงความสำคัญของอุปกรณ์ครัวคุณภาพว่า อุปกรณ์ที่ดีช่วยให้เชฟควบคุมการปรุงได้แม่นยำ ส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและคุณภาพอาหาร ยิ่งเชฟรุ่นใหม่ได้ใช้งานตั้งแต่เริ่ม ก็ยิ่งเรียนรู้และพัฒนาได้เร็วขึ้น“Tecnoplus” ออกแบบให้ตอบโจทย์ครัวไทย ใช้งานจริงได้ทั้งด้านฟังก์ชันและดีไซน์ ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในตลาดไทย เชื่อมั่นว่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้เชฟรุ่นใหม่สร้างสรรค์เมนูได้อย่างมั่นใจ

ด้านนายกวิน วิทยฐานกรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเวทีนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนไทยในสายอาชีพอาหาร ที่ต้องมีทั้งฝีมือและความใส่ใจในการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพ บมจ.น้ำมันพืชไทย ภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนน้ำมันถั่วเหลืองตราองุ่น ผลิตจากถั่วเหลืองแท้ 100% ปราศจากคอเลสเตอรอลและไขมันทรานส์ ซึ่งเหมาะกับการสร้างสรรค์เมนูที่ดีต่อสุขภาพ เราเชื่อว่าอาหารที่ดีเริ่มต้นจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และเมื่อนำไปต่อยอดด้วยความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ ย่อมนำไปสู่การพัฒนาสู่ระดับมืออาชีพได้อย่างมั่นคง

นางชญาน์ณันท์พัช แกทเทนบี้ เดวี่ส์ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ธรรมชาติซีฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพ เลือกโปรตีนคุณภาพสูง ไขมันต่ำอย่างปลาและอาหารทะเล พร้อมความสะดวกและรสชาติหลากหลาย เชฟรุ่นใหม่จึงมีโอกาสพัฒนาวัตถุดิบทะเลให้ตอบไลฟ์สไตล์ ทั้งแบบพร้อมปรุงและพร้อมทาน ธรรมชาติซีฟู้ดคัดวัตถุดิบยั่งยืน ผ่าน Cold Chain และมาตรฐาน MSC, ASC, ISO 22000 เพื่อคงความสด เชื่อว่าคุณภาพวัตถุดิบดีช่วยเชฟมั่นใจสร้างสรรค์เมนู พร้อมสนับสนุนเชฟรุ่นใหม่ด้วยมาตรฐานมืออาชีพ

ทางด้านนางสาววรรณชมพู ชัยสารวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป สำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด กล่าวว่า น้ำพริกเผาไทยแม่ประนอมเป็นหัวใจของรสชาติไทยแท้ที่อยู่คู่ครัวไทยมากว่า 60 ปี วัตถุดิบคุณภาพคือจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ เชฟรุ่นใหม่จึงสามารถต่อยอดรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม สู่อาหารคาว หวาน ของว่าง หรือเมนูฟิวชันระดับ Chef’s Table ในฐานะแบรนด์ไทยที่ส่งออกไปกว่า 60 ประเทศ การสนับสนุนเวทีนี้จึงไม่เพียงส่งเสริมเยาวชน แต่ยังสะท้อนคุณค่าและศักยภาพวัตถุดิบไทยในระดับสากลอย่างยั่งยืน

เชฟเมย์-พัทธนันท์ ธงทอง รองแชมป์ Top Chef Thailand Season 1 และหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรอบชิงฯ กล่าวเสริมว่า เชฟรุ่นใหม่ต้องถ่ายทอดตัวตนผ่านจานอาหารให้ชัดเจน พร้อมมีเทคนิคที่แม่นยำและเหมาะสม การบาลานซ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับทักษะภายใต้แรงกดดันคือความท้าทายสำคัญขณะเดียวกัน วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีจะช่วยยกระดับเมนูให้มีเอกลักษณ์ เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม และมีผลต่อการตัดสินในมุมของความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจในวัตถุดิบด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรในแวดวงอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) โดยนางศุภรา ศรีบูรณ์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจการค้าในประเทศ สนับสนุนวัตถุดิบคุณภาพ อาทิ หมูดำซีพี-คูโรบูตะ สันคอและสันนอก, บริษัท น้ำปลาพิไชย จำกัด โดยนายพันธ์ชนะ รัตนประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ สนับสนุนน้ำปลาแท้ ตราหอยนางรมเกรดพรีเมียม, บริษัท คิงส์แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด โดยนายทวี จุลศักดิ์ศรีสกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ สนับสนุนบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร, บริษัท อีสท์เวสท์เทรดิ้งแอนด์เอเย่นซีส์ จำกัด โดยนายวงศกร ดุลยะนันท์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด สนับสนุนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศประเภทผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีสและเนย และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสและเครื่องกระป๋องต่าง ๆ
บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวอิสรีย์ เบญจผ่องวัฒนา ผู้แทนผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภายในประเทศ สนับสนุนถุงมือยางอเนกประสงค์ I’m glove บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยนายปราโมทย์ ศักดิ์กําจร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สนับสนุนของรางวัลพิเศษ พร้อมด้วยเชฟชั้นนำของเมืองไทยที่มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้เชฟรุ่นใหม่ ได้แก่ เชฟพล ตัณฑเสถียร, เชฟแก้ว-ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร และเชฟเบสท์-ณัฐธนนท์ สิทธิปัญญพัฒน์ Director of Culinary บริษัท อยู่ดีและมีสุข จำกัด

พร้อมกันนี้ ภายในงานได้เปิดเผยรายชื่อ 10 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ Gourmet & Cuisine Young Chef 2025 ซึ่งคัดเลือกจากผลงานกว่า 70 ทีมทั่วประเทศ โดยแต่ละทีมมีความโดดเด่นทั้งด้าน ไอเดีย เทคนิค และการตีความแนวคิด “Local to Global – จากรสชาติท้องถิ่นสู่เวทีโลก” ได้อย่างสร้างสรรค์ ได้แก่
1. ทีม กับข้าวกับปลา – วิทยาลัยดุสิตธานี นายธรรมนาถ เฉลิมศักดิ์, นางสาวภคินี เฉยดี
2. ทีม ฟุ้ง – มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นางสาวธฤษวรรณ กังสดาบพิภพ, นางสาวรมิดา ธรรมวงศ์
3. ทีม เถรวาดกวาดลาน – มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายวีระพงษ์ จิรานุกุลสวัสดิ์, นายธรรมชาติ ชื่นชม
4. ทีม หม้อข้าวหม้อแกงลิง – วิทยาลัยดุสิตธานี นางสาวภัทรพร พูลทั่วญาติ, นายสิทธา บัวลอยเลิศ
5. ทีม Locallicious – มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี นายวรชิต บุญระยอง, นายดา โป
6. ทีม Mosaic Motion –สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ นางสาวบรรณรส เกลียวทอง, นายเกริกฤทธิ์ สายแก้ว
7. ทีม Purple Puff – วิทยาลัยดุสิตธานี นางสาวภัทรวดี เซี่ยงโหล, นางสาวชนัดดา เจริญรัตน์
8. ทีม Seven Star – มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร นายกันตวัฒน์ วิริยภาษ, นายบุรินทร์พศ มงคล
9. ทีม Twinkle Star – วิทยาลัยดุสิตธานี นางสาวณิชาภา อุดมผล, นายธนกฤต เจริญพงษ์
10. ทีม Wonderland – มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นางสาวพุทธน้ำบุตษ์ ตัน, นางสาวเปมิกา เกลี้ยงมลทิน
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นวันที่ 20 กันยายน 2568 ณ Culinary Excellence Center at IMPACT Muang Thong Thani ซึ่งทั้ง 10 ทีมจะได้โชว์ฝีมือเต็มที่ เพื่อลุ้นชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3 แสนบาท
ติดตามผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้ทาง Facebook : Gourmet & Cuisine Young Chef

