จากเหตุการณ์ ปะทะชายแดนไทยกัมพูชา กระสุนปืนจากกองกำลังทหารกัมพูชายิงตกในบริเวณชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน (25 ก.ค. 68) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย สำนักงานประกันสังคม ได้สั่งการไปยัง สำนักงานประกันสังคม จ.ศรีสะเกษ เร่งตรวจสอบข้อมูล ให้การช่วยเหลือลูกจ้างที่ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน
ซึ่งหากผู้เสียชีวิตเป็นลูกจ้างและเสียชีวิตขณะปฏิบัติงานให้นายจ้าง ทายาทของลูกจ้าง จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม ประกอบด้วย
1.ค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นเงินร้อยละ 70 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 10 ปี
2.เงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผล
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติงานจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน เช่นกัน
1.ได้รับค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น 65,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท
2.หากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ จนสิ้นสุดการรักษาจะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นจนกว่าจะสิ้นสุดการรักษา
3.กรณีแพทย์รับรองให้หยุดพักรักษาตัว มีสิทธิได้รับค่าทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนไม่เกิน 1 ปี
4.หากมีการสูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานจะได้รับค่าทดแทน กรณีสูญเสียอวัยวะร้อยละ 70 ของค่าจ้าง รายเดือน ตามอัตราการสูญเสีย
5.กรณีทุพพลภาพจะได้รับค่าทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนตลอดชีวิต

ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 ประสบอันตรายจากสถานการณ์ดังกล่าว และไม่อยู่ระหว่างปฏิบัติงาน (ไม่เนื่องจากการทำงาน) มีสิทธิดังนี้
1.เข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งภายใน 72 ชั่วโมง อัตราตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์
2.หากเป็นเหตุให้ทุพพลภาพจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ในอัตราสูงสุดร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ตลอดชีวิต
3.หากเสียชีวิต ทายาทจะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตายในอัตราสูงสุดร้อยละ 50 ของค่าจ้าง จำนวน 12 เดือน
4.เงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผล

กรณีผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับความคุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เช่น
1.ค่านอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป วันละ 300 บาท ทั้ง 3 ทางเลือก
2.หากไม่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดรักษาตัว ตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป วันละ 200 บาท ทั้ง 3 ทางเลือก กรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ต่อเดือน 500 – 1,000 บาท เป็นต้น
3.กรณีตาย ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 จะได้รับค่าทำศพ จำนวน 25,000 บาท และทางเลือกที่ 3 จะได้รับเงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท
