หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมผู้บริหารระดับสูง ร่วมหารือกับตัวแทน 9 สมาคมธุรกิจ ซึ่งเข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้อง เพื่อขอผ่อนคลายมาตรการให้สามารถประกอบธุรกิจไปได้ ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 ของ สธ. แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 วันที่ 1 ก.ย. ได้แก่ เปิดธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มนั่งรับประทานที่ร้าน ร้อยละ 50 และเปิดธุรกิจก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน คลินิกทันตกรรม ร้านนวด สปาเฉพาะนวดเท้า คลินิกเวชกรรม ธุรกิจเสริมสวยงดเว้นบริเวณใบหน้า ธุรกิจไอทีอุปกรณ์สื่อสารและไฟฟ้า อาคารสำนักงาน ธุรกิจบริการ เช่น ล้างรถ ซ่อมกุญแจ ไปรษณีย์ เบ็ดเตล็ด เช่น ร้านตัดแว่น สนามกอล์ฟ และกีฬากลางแจ้ง
ระยะที่ 2 วันที่ 15 ก.ย. ระยะที่ 2 เป็นการเปิดธุรกิจร้านอาหารแบบนั่งรับประทานที่ร้าน ร้อยละ 75 ธุรกิจเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และ ธุรกิจสถาบันการศึกษา
ระยะที่ 3 วันที่ 30 ก.ย. ซึ่งอาจจะเร็วกว่ากำหนดก็ได้ คือ ธุรกิจร้านอาหารแบบนั่งรับประทานเต็มรูปแบบ 100% ธุรกิจประกอบการสุขภาพและสปา เครื่องเล่นเด็ก และผู้ใหญ่ ธุรกิจฟิตเนส และออกกำลำลังกายในร่ม ธุรกิจโรงภาพยนตร์ และห้องจัดเลี้ยง
ล่าสุด นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. เปิดเผยว่า สธ.รับในหลักการดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะให้ร้านอาหารสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ประมาณ ร้อยละ 50 รวมถึงสถานประกอบการกลางแจ้ง สถานออกกำลังกายต่างๆ โดยจะต้องทำตาม 3 ข้อปฏิบัติ ดังนี้
1.การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ไม่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี
2.พนักงานต้องปลอดโรค โดยการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ หากไม่ได้ หรือ ยังได้ไม่ครบ 2 เข็ม ต้องตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK ทุก 3-7 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองในการให้บริการลูกค้า
3.ลูกค้าต้องปลอดโรค อาทิ แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน, ผู้ที่เคยติดเชื้อต้องหายแล้ว 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน , มีผลตรวจ ATK รับรองว่าไม่ติดเชื้อ หรือ มีการตรวจก่อนเข้าใช้บริการ
โดยระยะแรกจะเน้นในร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศ และห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย โดยจะนำรายละเอียดหลักการ เสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564