นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานีของประเทศไทยวันนี้ (24 ก.ย. 64) ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนัก ปริมาณน้ำท่าจากเเม่น้ำวัง เเม่น้ำปิง เเม่น้ำยม เเม่น้ำน่าน ไหลลงสู่เเม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,112 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 ในวันที่ 27 ก.ย.64 ในอัตรา 2,441 ลบ.ม./วินาทีเมื่อรวมกับน้ำท่าจากเเม่น้ำสะเเกกรัง ประมาณ 200 ลบ.ม./วินาที จึงทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นไปด้วย
กรมชลประทาน จึงปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 1,951 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 2,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณคลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ชุมชนแม่น้ำน้อย (ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา) คลองโผงเผง จ.อ่างทอง วัดไชโย จ.อ่างทอง และ อ.พรหมบุรี อ.เมือง อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
ระดับน้ำจะสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 75 เซนติเมตร ในช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ย. 64 กรมชลประทาน จึงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงสามารถปฏิบัติงานได้ทันที และได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานกาณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือ โทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา