นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดในหลายจังหวัดขณะนี้ ทั้งการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ สปสช. ให้ความช่วยเหลือประชาชนและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ และกำชับให้จัดระบบเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการต่อเนื่อง
ในส่วนผู้ป่วยที่ล้างไตทางช่องท้อง สปสช.มีระบบส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านและมีจำนวนเก็บสำรองได้มากเพียงพอ จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น จำกัด ยังไม่พบปัญหาผู้ป่วยขาดน้ำยาล้างไต และยังไม่มีหน่วยบริการใด แจ้งปัญหาเข้ามา ซึ่งน้ำยาล้างไต ที่บ้านผู้ป่วยยังมีเพียงพอ และผู้ป่วยที่ต้องฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม ซึ่งต้องไปฟอกที่ รพ.นั้น ทาง รพ.และ สปสช.ได้จัดระบบเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากที่ไหนมีปัญหาก็สามารถหา รพ.สำรองให้ได้ทันที
สำหรับประชาชนทั่วไปนั้น ตามหลักเกณฑ์ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผู้ป่วยจะต้องรับบริการยังหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ในกรณีภาวะฉุกเฉิน บอร์ด สปสช.ได้เคยมีมติร่วมกันให้ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่สามารถรับบริการรักษายังหน่วยบริการสาธารณสุขโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหน่วยบริการที่ให้บริการสามารถทำเรื่องเบิกค่าใช้จ่ายมาที่ สปสช.ได้ตามเกณฑ์ฉุกเฉิน
เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องรักษาดูแลต่อเนื่องสามารถเข้าถึงบริการได้ ซึ่ง สปสช.ในแต่ละเขตพื้นที่ได้ประสานงานกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) แต่ละ อบต.และเทศบาล ประสานเรื่องการรับส่งผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องแล้ว
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น สปสช.ได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขกรณีเกิดอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ที่ให้บริการผู้ป่วยในช่วงน้ำท่วม ให้บริการโดยไม่คิดมูลค่า และสามารถเบิกงบประมาณจาก สปสช.ได้
ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมสามารถใช้บริการที่หน่วยบริการหรือสถานพยาบาลที่ไม่ใช่หน่วยบริการตามสิทธิได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทางหน่วยบริการจะเบิกค่าใช้จ่ายจาก สปสช.ตามขั้นตอนต่อไป โดยหน่วยบริการจะบันทึกรหัสโครงการพิเศษ X38000 อุทกภัยน้ำท่วม ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เพื่อเบิกจ่ายกับ สปสช.ต่อไป