นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลัง ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ประกอบอาชีพขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพขับรถใน 13 จังหวัด จะได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000 บาทต่อคน ส่วนผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพขับรถใน 16 จังหวัด จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อคน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://mekhanews.com/2021/10/17/taxi-drivers-win-motorcycles-over-the-age-of-65-dont-forget-to-reserve-the-registration-queue-to-receive-the-money-to-heal-18-oct-jul/
ซึ่งกรมการขนส่งทางบก เปิดให้ผู้ขับรถแท็กซี่และวินจักรยานยนต์รับจ้างที่เข้าเงื่อนไข มีรายชื่อในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก แบ่งเป็น ผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ประมาณ 12,000 คน และผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ (วินจยย.รับจ้าง) ประมาณ 3,000 คน สามารถลงทะเบียนจองคิวรับบริการได้แล้ว ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://mekhanews.com/2021/10/18/how-to-book-an-appointment-to-register-money-to-heal-taxis-via-dlt-smart-queue-app/
ซึ่งตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม มีแท็กซี่/วิน รถจักรยานยนต์รับจ้าง จองคิวผ่านระบบแล้วประมาณ 7,000 คน ถือเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและลดความแออัดตามมาตรการด้านสาธารณสุข โดยหลังจากที่จองสิทธิในระบบแล้ว ต้องเดินทางมาลงทะเบียนไปยืนยันศักยภาพในการขับรถสาธารณะเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2564 ณ อาคาร 6 ชั้น 7 กรมการขนส่งทางบก, กลุ่มวิชาการขนส่งสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 และกลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ได้แก่ ใบคำขอเพื่อรับสิทธิช่วยเหลือ (ณ จุดลงทะเบียน) บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ กรณีรถเช่า ต้องมีข้อมูลทะเบียนรถที่เช่าขับและผู้ให้เช่ารถได้ โดยกรมการขนส่งทางบกจะทำการตรวจสอบข้อมูลจากผู้ให้เช่าก่อนรับสิทธิ
รวมถึงรถที่ใช้ประกอบอาชีพต้องชำระภาษีครบถ้วนสำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือจะจ่ายผ่านบัญชีพร้อมเพย์เฉพาะการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนแบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่
รอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2564 สำหรับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล
รอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2564 สำหรับรถแท็กซี่ที่เช่าขับ
“ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะครั้งนี้ กรมการขนส่วทางบกได้เร่งรัดกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว จึงขอเชิญชวนแท็กซี่/ วินจักรยานยนต์รับจ้าง อายุเกิน 65 ปี ที่มีสมาร์ทโฟนหรือสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ลงทะเบียนจองคิวไว้ก่อน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับบริการและลดความแออัดตามมาตรการด้านสาธารณสุข” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว