นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงโครงการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี โดยระบุว่า หลังจากเปิดให้ผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขข้างต้น ลงทะเบียนขอรับสิทธิช่วยเหลือระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2564 ที่กรมการขนส่งทางบก, สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 4 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
พบว่า มียอดลงทะเบียนขอรับสิทธิช่วยเหลือทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 10,789 ราย แบ่งเป็นผู้ขับรถแท็กซี่ จำนวน 5,921 ราย ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 4,868 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ตรวจสอบแล้วว่ามีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ 7,017 ราย และรอผลการตรวจสอบ 3,772 ราย
กรมการขนส่งทางบก จะเร่งตรวจสอบและคัดกรองความซ้ำซ้อนข้อมูลการลงทะเบียนขอรับสิทธิช่วยเหลือจากฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกและเอกสารการลงทะเบียน เมื่อตรวจสอบแล้วเป็นไปตามเงื่อนไข จะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอรับสิทธิทราบ และดำเนินการโอนเงินให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิรอบแรกระหว่างวันที่ 8 – 12 พฤศจิกายน 2564 สำหรับผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล
และรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 22 – 26 พฤศจิกายน 2564 สำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ที่เช่าขับ ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนตามที่ได้ระบุไว้ในเอกสารการลงทะเบียน
ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคลที่ประกอบอาชีพใน 13 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 10,000 บาทต่อคน
ส่วนผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพใน 16 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาทต่อคน