จากข่าวที่ร้านกาแฟอินทนิล ประกาศรับชำระค่าเครื่องดื่มด้วย “คริปโตเคอร์เรนซี” เจ้าแรกในไทย ประกอบด้วย 3 เหรียญ ได้แก่ Bitcoin, Ethereum และ Tether โดยชำระผ่าน Bitazza เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ จำนวน 21 สาขา และจะเพิ่มอีก 100 สาขา ในวันที่ 1 ม.ค. 65 ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจะขยายไปทั่วประเทศปีหน้า
รวมถึงเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดช่องทางจอง-ดาวน์-โอนบ้านและคอนโดลักซูรี ด้วย “คริปโตเคอร์เรนซี” สกุล Bitcoin, Ethereum และ Tether พร้อมฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมเพิ่มช่อง Touchless Payment ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุค Next Normal เริ่ม 1 ธ.ค.นี้
มีค่า นิวส์ จึงพามาทำความรู้จักกับคำนี้
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือ คริปโตเคอร์เรนซี หรือ ที่คนไทยเรียกสั้น ๆ ว่า “คริปโต” เป็นสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ Bitcoin, Ethereum, Tether ซึ่งเป็นสกุลเงินใหม่ ที่สร้างขึ้นจากกลไกคณิตศาสตร์กำหนดจำนวนไว้จำกัด ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ถอดรหัสเพื่อนำเงินออกจากกลไก
สกุลเงินใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อลดการรวมศูนย์ของระบบการชำระเงินผ่านสถาบันการเงินให้สามารถกระจายไปยังผู้ใช้ในเครือข่ายสกุลเงินนั้น ๆ ได้ โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) ติดตามการเคลื่อนไหวของเงิน
แม้จะไม่มีตัวกลางและสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้ด้วย การชำระ/โอนเงินจึงอยู่แค่ภายในเครือข่าย ซึ่งมีข้อดีที่รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ และปลอดภัย แต่ธนาคารกลางส่วนใหญ่ ยังไม่รับรองว่าบรรดา “คริปโทเคอร์เรนซี” ที่เอกชนสร้างขึ้นมา สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย คริปโทเคอร์เรนซี จึงทำหน้าที่ของเงินได้ไม่ครบ เพราะยังไม่เป็นสื่อกลางในการชำระเงินและไม่ถูกใช้เป็นหน่วยกำหนดราคาสิ่งของ แถมมูลค่ายังผันผวนมาก
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย