นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้มอบให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานออกประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน เรื่อง โครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ สามารถเข้าถึงการบริการเงินกู้ของกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ในการนำไปลงทุนประกอบอาชีพเสริม เพื่อพัฒนารายได้แก่ตนเองและครอบครัว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2565 เป็นต้นไป มีค่า นิวส์ จึงจะพามาส่องรายละเอียดกันค่ะ
โครงการนี้ มีวงเงินในการดำเนินโครงการ 50 ล้านบาท มีระยะเวลาในการยื่นคำขอกู้ตามโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 หรือ จนกว่าจะมีสหกรณ์ออมทรัพย์ใช้บริการครบตามวงเงินที่กำหนด ซึ่งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการหรือในรัฐวิสาหกิจ สามารถยื่นคำขอกู้เงินจากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานตามโครงการนี้ เพื่อนำไปให้บริการเงินกู้ แก่ผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์
1.สหกรณ์กู้ได้ไม่เกินแห่งละ 10 ล้านบาท
– อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ต่อปี
– ระยะเวลาการส่งชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 3 ปี โดยผ่อนส่งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเงินกู้เป็นงวดรายเดือน
2.ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์
– กู้ได้ไม่เกินคนละ 100,000 บาท
ด้านนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถยื่นคำขอกู้เงินต่อกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน โดยมีคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ทั้งคณะและผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการสหกรณ์เป็นผู้ค้ำประกันการกู้เงิน
ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สหกรณ์ออมทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ ต้องให้บริการเงินกู้กับสมาชิกโดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยประเภทเงินกู้สามัญ ที่เรียกเก็บจากสมาชิกไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.25 ต่อปี กรณีที่มีปัญหาในการดำเนินการตามประกาศนี้ ให้นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานพิจารณาเป็นกรณีไป และผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานให้ถือเป็นที่สุด
หากมีข้อสงสัยติดต่อ กองสวัสดิการแรงงาน กลุ่มงานกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน โทร 02-660-2180