กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. 2564 #เลิกสูบ ลดเสี่ยง คุณทำได้ เพื่อส่งเสริมให้เลิกสูบผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกประเภท ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดแพร่กระจายเชื้อโควิด-19
วันนี้ (19 พฤษภาคม 2564) ณ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ นพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา และประธานคณะอนุกรรมการด้านบำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้เสพติดผลิตภัณฑ์ยาสูบ แถลงข่าวการรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2564 พร้อมเปิดตัวสัญลักษณ์รณรงค์ภายใต้คำขวัญ “เลิกสูบ ลดเสี่ยง คุณทำได้”
นายอนุทินกล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก และปีนี้ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ว่า “COMMIT TO QUIT” เพื่อให้ 180 ประเทศสมาชิกร่วมรณรงค์ผลักดันเชิงนโยบายและจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักถึงพิษภัยและอันตรายของบุหรี่ทุกประเภท ส่งเสริมให้ผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกเลิกบุหรี่ให้ได้ 100 ล้านคน สำหรับประเทศไทย ได้กำหนดประเด็นเน้นย้ำสื่อสารไปยังประชาชน ภายใต้คำขวัญ “เลิกสูบ ลดเสี่ยง คุณทำได้” เนื่องจากในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พบว่า พฤติกรรมการสูบบุหรี่ถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยง เพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายและโอกาสรับหรือสัมผัสเชื้อได้ เนื่องจากขณะสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นสูบบุหรี่ธรรมดา หรือสูบบุหรี่ไฟฟ้า ผู้สูบไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย และใช้มือในการหยิบบุหรี่เข้าปาก ส่วนใหญ่ไม่มีการล้างมือให้สะอาดก่อนสูบ และมีรายงานพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 มีประวัติการสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนใหญ่มักมีสุขภาพปอดไม่แข็งแรง ทำให้มีอาการรุนแรง และเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้
“ขอเชิญชวนผู้สูบบุหรี่ ใช้โอกาสนี้เริ่มต้นการเลิกสูบบุหรี่ ซึ่งนอกจากจะทำลายสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้างแล้ว ยังเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการระบบบริการเลิกบุหรี่แบบครบวงจร ช่วยผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ทุกสิทธิประโยชน์ได้เข้าถึงบริการและรับคำปรึกษา โทรฟรีสายด่วนเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ โทร.1600 หรือเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศและได้ผลักดันยาช่วยเลิกบุหรี่เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการเลิกบุหรี่ได้มากยิ่งขึ้น” นายอนุทินกล่าว
นพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า มีมากกว่า 100 เหตุผลที่เราควรเลิกสูบบุหรี่ และหนึ่งในเหตุผลที่เหมาะสมกับช่วงเวลานี้คือ การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตเมื่อติดโรคโควิด- 19 นอกจากนั้น มาตรการควบคุมการบริโภคยาสูบที่เข้มแข็ง เช่น การขึ้นภาษีบุหรี่ และเพิ่มการเข้าถึงบริการช่วยเลิกบุหรี่จะช่วยลดการบริโภคยาสูบในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ
ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าวว่า การเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการเลิกบุหรี่ในประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ สสส. และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จะร่วมมือกันขับเคลื่อนและดำเนินการในทุกด้านไปพร้อมกัน ได้แก่ ด้านระบบบริการ จะร่วมกันผลักดันให้งานบริการเลิกบุหรี่เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดในการทำงานระดับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และผลักดันให้สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และด้านเวชภัณฑ์ในการบำบัดการเสพติดนิโคติน จะร่วมกันผลักดันให้ยาที่ใช้ในการรักาการเสพนิโคตินเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ประสงค์จะเลิกบุหรี่สามารถเข้าถึงยาและบริการได้ง่ายยิ่งขึ้น